องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ การระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือ Mpox ในพื้นที่บางส่วนของทวีปแอฟริกา ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่มีความน่ากังวลระหว่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ การระบาดของ ฝีดาษลิงในแอฟริกาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 450 ราย
ซึ่งการระบาดที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดขึ้นในบางพื้นที่ของแอฟริกากลาง และแอฟริกาตะวันออก ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลต่อการระบาดของฝีดาษลิงในสายพันธุ์ย่อยนี้ ว่า อาจจะส่งผลให้มีการระบาดในวงกว้างได้มากขึ้น รวมถึงอัตราการเสียชีวิตของโรคฝีดาษลิงในครั้งนี้ด้วย
ดร.เทดรอส อัดฮานอม ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ได้ระบุว่า ความเป็นไปได้ของการระบาดของโรคฝีดาษลิงในแอฟริกานั้น เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง และนานาชาติจำเป็นจะต้องร่วมกันเพื่อหยุดการระบาดในครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้
โดยในขณะนี้ หลายประเทศในแอฟริกามีการระบาดของโรคฝีดาษลิงอย่างหนัก พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 13,700 ราย เสียชีวิตแล้ว 450 ราย โดยเฉพาะในประเทศ บุรุนดี, แอฟริกากลาง เคนยา รวันดา และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) ที่มีสถานการณ์การระบาดค่อนข้างรุนแรง คิดเป็นราว 90% ของผู้ติดเชื้อในแอฟริกา และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเด็ก
ดร.เทดรอส อัดฮานอม ผอ.ขององค์การอนามัยโลก ยังระบุว่า ในขณะนี้ได้มีการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อให้การช่วยเหลือไปแล้วเบื้องต้น 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะมีการจัดสรรเงินเพิ่มเติมลงไปอีก เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้กล่าวย้ำว่า การประสานงานระหว่างประเทศ ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคนี้
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้มีการมอบหมายให้กรมควบคุมโรคยกระดับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาด และคัดกรองโรค ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และโรงพยาบาลทุกแห่ง
สำหรับการติดเชื้อนั้น เกิดขึ้นจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง หรือสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อที่มีเชื้อไวรัส หรือจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัส ดังนั้นจึงควรเลี่ยงกันสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ และไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ส่วนอาการของโรคฝีดาษลิงนี้ สามารถสังเกตได้จาก ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนอง รวมถึงอาการไข้ เจ็บคอ
