คัดลอก URL แล้ว
ผู้การฯ สั่งขัง 30 วัน ตร.เมืองกาฬสินธุ์โดดเวรนอนบ้าน

ผู้การฯ สั่งขัง 30 วัน ตร.เมืองกาฬสินธุ์โดดเวรนอนบ้าน

จากกรณีคลิปจากผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ที่ระบุข้อความว่า “เสียใจมาก ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ละเลยหน้าที่ มาแจ้งความร้องทุกข์ กลับไม่มีเจ้าหน้าที่มารับแจ้งความ” โดยในคลิปเป็นเหตุการณ์ลักษณะเข้ามาแจ้งความกับตำรวจร้อยเวรชั้น 2 และมาลงบันทึกประจำวันที่ชั้น 1 แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการลงประจำวัน และพบเพียงตำรวจนายหนึ่ง แต่งกายครึ่งท่อน ก่อนจะมีการพูดคุยตอบโต้กันไปมา โดยชายในคลิปบอกว่าวันนี้มีงานเลี้ยง เจ้าหน้าที่พากันไปงานเลี้ยงกันหมด พร้อมพยายามโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบลงประจำวันมาทำหน้าที่ แต่ติดต่อไม่ได้ ทำให้เจ้าของคลิปถึงกับร้องไห้ออกมา และบอกว่าเสียใจมาก เพราะมารอนานเป็นชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในเครื่องแบบคนหนึ่งเข้ามาปลอบใจ พร้อมกับรับปากดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจกันจำนวนมาก

ล่าสุด พลตำรวจตรี ตรีวิทย์ ศรีประภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกตำรวจของสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ชุดที่เข้าเวรและปฏิบัติหน้าที่วันเกิดเหตุมาชี้แจง ทราบว่า วันเกิดเหตุตำรวจที่ทำหน้าที่ลงประจำวัน 2 นาย ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่จริง และจากการสอบถามทั้งสองยอมรับว่ากลับไปนอนที่บ้าน ส่วนสิบเวรที่อยู่ในคลิปยอมรับว่า ดื่มสุราช่วงเย็นมาก่อนเข้าเวร ดังนั้น จึงให้ทั้งหมดทำรายงานชี้แจงมาด่วนที่สุด เพื่อที่จะดำเนินการลงโทษที่บกพร่องและละเลยการปฏิบัติหน้าที่

โดยเบื้องต้นจะลงโทษ เจ้าหน้าที่ลงประจำวัน 2 นาย และสิบเวร 1 นาย รวม 3 นาย ให้ขังไว้ 30 วัน ส่วนร้อยเวรที่รับแจ้งความ จะมีการพิจารณาโทษหรืออาจจะภาคทัณฑ์ไว้ ซึ่งจะต้องดูรายงานในการชี้แจงก่อน

พลตำรวจตรี ตรีวิทย์ กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่เข้าตรวจโรงพักเกือบทุกวัน และทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้เน้นย้ำพร้อมกำชับเสมอว่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพักจะต้องยึดหลัก 3 ข้ออย่างเคร่งครัด คือ

  1. จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง มีเรื่องจำเป็นเช่นไปกินข้าว ก็ให้รีบกลับมา
  2. จะต้องแนะนำ พูดจาดีกับประชาชน
  3. จะต้องแสดงออกถึงความจริงใจในการบริการประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะเขาเดือดร้อนมา

ทั้งนี้ได้กำชับทุกโรงพักให้เข้มงวดและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง