ส่องเส้นทาง OR มุ่งสู่องค์กร Net Zero ภายในปี 2050 จะทำอย่างไรให้ธุรกิจยั่งยืนพร้อมกับสร้างรายได้มั่งคงให้เกษตรกร
เป็นไปได้ไหม? ที่จะทำธุรกิจเพื่อองค์กรตนเองพร้อม ๆ กับรักษ์โลก และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับคนในสังคมมีชีวิตที่ขึ้นไปด้วยได้ จุดนี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มองว่าเป็นไปได้ และมีแผนดำเนินการออกมาชัดเจน โดยใช้กลยุทธ์ 3R ในการขับเคลื่อน
เนื่องจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ที่ได้ทวีความรุนแรงและก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทั้งในมิติสังคม มิติเศรษฐกิจ รวมถึงมิติสิ่งแวดล้อม นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ OR ได้ตระหนักถึงวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจทั้งในด้านความความเสี่ยงและการปรับตัวของธุรกิจ จึงได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ สนับสนุนและดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 พร้อมกับทั้งคำนึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมไทยอย่างชาวเกษตรกรให้ดีขึ้นด้วย
หลักการข้อที่ 1 Reduce (Own Greenhouse Gas Emissions) หรือ การลดก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเอง
มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) โดยการติดตั้ง Solar Rooftop ในสถานประกอบการของ OR รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) ในพื้นที่สำนักงานพระโขนง ศูนย์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ และ โรงงานซ่อมบำรุงและบรรจุก๊าซหุงต้ม จ.สงขลา อีกทั้งยังได้ซื้อใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) มาใช้ จำนวน ส่งผลให้ลดการปล่อย GHG กว่า 8,000 tCO2/ปี
หลักการข้อที่ 2 กักเก็บ Remove (Residual Greenhouse Gas Emissions) หรือกักเก็บคาร์บอนด้วยธรรมชาติ
โดยการปลูกป่าร่วมกับกรมป่าไม้และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง 10,000 ไร่ภายในปี 2030 โดยปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 9,600 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024) รวมถึงการพัฒนาและขอการรับรอง Carbon Credit จากโครงการ Green Travel with Biofuel ที่ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาจำนวน 50 พื้นที่ โดยคิดเป็น Carbon Credit ที่คาดว่าจะได้รับกว่า 10,000 tonCO2/ปี
หลักการข้อที่ 3 การขยาย Reinforce (GREEN Portfolio of business and Investment) หรือการขยายสัดส่วนธุรกิจและการลงทุนสีเขียว ได้แก่
- การขยาย EV Station PluZ ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย โดย รวม 1,748 หัวชาร์จ (DC Connector) (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024)
- การติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับดีลเลอร์และลูกค้า ทั้งในและนอกสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น โดยติดตั้ง Solar Rooftop ไปแล้วกว่า 19.40 MWp (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024)
- OR ได้พัฒนาสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น Flagship วิภาวดี 62 เพื่อเป็นต้นแบบสถานีบริการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% สะท้อนแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในแบบฉบับของ OR หรือ OR SDG โดยสถานีนี้สามารถลด GHG ได้ 533 tonCO2/ปี
- โครงการทดลองการขนส่งเมล็ดกาแฟดิบ จาก อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ มายัง อ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ (EV Truck) หรือ Green Logistics for Café Amazon Project ซึ่งหากได้ผลดีจะมีการขยายการดำเนินการต่อไป
- การให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด เช่น เริ่มให้มีสถานีสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใน พีทีที สเตชั่น กว่า 24 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024) เปิดสถานีนำร่องทดลองใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ที่ จ.ชลบุรี และทดสอบเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ให้กับสายการบิน
ทั้งหมดที่กล่าวมานอกจากจะทำเพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย Net Zero ตามเป้าหมายของสหประชาชาติร่วมกันในระยะยาวแล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรได้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย