นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปราย ม.152 ในสภาฯ ว่า เป็นการทำงานที่มุ่งเน้นปัญหาในปัจจุบัน โดยมีการสรุปข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และมีข้อเสนอแนะในการปรับคณะรัฐมนตรีให้เหมาะสมต่อความท้าทายของประเทศ อาทิ ปัญหาไฟป่า ฝุ่น PM 2.5 หรือเศรษฐกิจที่เติบโตช้า
นายพิธาระบุว่า ในการอภิปราย ม.152 มีทั้งสิ่งที่ตนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ตนจะทำงานของตนเองอย่างเต็มที่ และสู้คดีเต็มที่ โดยจะขอใช้สิทธิในการขอขยายการไต่สวน เนื่องจากคดีรอบนี้มีโทษหนักกว่าเดิม ถึงขั้นยุบพรรคและประหารชีวิตทางการเมือง
ส่วนกรณีการเซาะกร่อนบ่อนทำลายที่เป็นจุดเริ่มต้นของการยุบพรรค นายพิธาระบุว่า ต้องดูสัดส่วนทางกฎหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมายด้วยว่าเป็นการป้องกันหรือการประหัดประหารทางการเมือง ซึ่งจะกระทบระบบประชาธิปไตย ส่วนตนเองไม่รู้สึกหวั่นไหวหรือเกรงกลัวอะไร และจะทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่
นายพิธากล่าวอีกว่า ปัจจุบันทุกพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค และถามว่าการยุบพรรคนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเลือกตั้งมาก็ยุบ ซึ่งเป็นปัญหาของระบบประชาธิปไตยไทย ดังนั้น เขาจึงอยากให้ผู้มีอำนาจถามตัวเองว่า ยุบพรรคแล้วได้อะไร ถึงแม้ในระยะสั้นอาจทำให้พรรคก้าวไกลอ่อนแอลง แต่อาจเป็นการ “ติดเทอร์โบ” ให้กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าเช่นกัน.