คัดลอก URL แล้ว
เรียกสอบ 3 พยาน คดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” สรุปสำนวนภายใน พ.ค.นี้

เรียกสอบ 3 พยาน คดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” สรุปสำนวนภายใน พ.ค.นี้

ชุดคณะตรวจสอบ หรือกำกับการสอบสวนคดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” เป็นคดีที่พลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวก และพลเรือน มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันรีดเงินผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ โดยมีการเรียกเงินเพื่อแลกกับการเคลียร์คดีจำนวน 140 ล้านบาท นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดีดังกล่าว ได้นัดหมายสอบพยาน 3 ราย จาก 5 ราย ซึ่งเป็นทีมสืบสวนสอบสวนคณะเดิมในคดีดังกล่าว มาให้ข้อมูลในวันนี้ ประกอบด้วย พลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีระโรจน์พงษ์ , พันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย , พันตำรวจเอกเขมรินทร์ พิศมัย ส่วนอีก 2 ราย ได้นัดหมายมาอีกครั้ง

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนคดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” เปิดเผยว่า คณะพนักสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ได้ทำการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้กล่าวหาและ ผู้ต้องหา ซึ่งที่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนในทางสอบสวนได้ เพราะว่าต้องการความจริงจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะ 3 คนที่ได้เชิญมาวันนี้

ยืนยันว่า ทั้ง 3 คน ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่เป็นการมาให้ข้อมูล เพราะเป็นพนักงานสืบสวนตั้งแต่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ และตนก็เป็นคณะทำงานที่ทำกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ มาตั้งแต่แรก และเมื่อเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นพลตำรวจเอกอัคราเดช ก็ได้ทำมาจนถึงวันนี้ และนับว่า เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

ส่วนที่ต้องเชิญทั้ง 3 คน มาวันนี้ เพราะว่าบางคนเคยให้การแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่เคยให้การในสำนวน เพราะเราต้องการความจริง ตามพยานหลักฐานอย่างเดียว ไม่มีการช่วยเหลือใครและเข้าข้างใคร ซึ่งการให้ข้อมูลของ 3 คนนี้ และอีก 2 คนที่ได้นัดหมายไว้ ก็จะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ส่วนประเด็นที่ได้เชิญทั้ง 3 คนมาให้ข้อมูล ก็เป็นข้อมูลที่ตั้งแต่เริ่มทำคดีนี้ หรือบางคนหากอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ยังไม่มีในสำนวนก็ยินดีรับเข้ามา ซึ่งจะเป็นพยานชุดสุดท้ายที่จะขอข้อมูล เพราะที่ผ่านมาให้เวลาทุกฝ่ายมาพอสมควรแล้ว ส่วนพยานอีก 2 คนที่ไม่มาวันนี้ ได้นัดสอบพยานอีกครั้งในวันอังคารที่ 9 เมษายน 2567

ส่วนจะสรุปสำนวนได้เมื่อไรนั้น นายวัชรินทร์ บอกว่า ตอนนี้คืบหน้าไป 90% แล้ว คาดว่าจะไม่เกินไทม์ไลน์ที่วางไว้คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม ยืนยันว่า ไม่ช้า เพราะว่ามีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นเป็น 33 คน โดยหลบหนีแล้ว 1 คน กำลังดำเนินการตามตัวแล้ว ซึ่งหลังจากสรุปสำนวนคดีแล้ว จะมีการนัดประชุมใหญ่ระหว่าง อัยการและพนักงานสอบสวน เพื่อลงมติว่า ผู้ต้องหาทั้ง 33 คน ควรจะฟ้องร้องหรือดำเนินการทางคดีอย่างไรบ้าง เพื่อนำส่งอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป

นายวัชรินทร์ ยังยืนยันว่า การนัดพยานในครั้งนี้ ได้ทำการนัดก่อนที่จะมีการออกหมายจับพลตำรวจเอกสุเชษฐ์

ขณะที่ พลตำรวจตรีนำเกียรติ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการถูกดำเนินคดีเว็บพนันของตนเอง เพราะตนเองเป็นคนทำคดี 140 ล้านบาท ว่า เป็นความเชื่อที่ตนเองเข้าใจ และได้นำเรียนประชาชนและสื่อมวลชนไปแล้ว จะไม่ขอไปกล่าวอ้างถึงวันนั้นอีก เพราะถือว่าวันนั้นตนเองได้ใช้สิทธิก็จบตรงนั้น วันนี้เป็นการมาให้การตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอให้มาพบ ส่วนรายละเอียดก็อยู่ที่พนักงานสอบสวน

ส่วนกรณีที่เคยออกมาแฉถึงผู้กำกับ ด. ที่มีความใกล้ชิดกับบิ๊กตำรวจจนทำให้ตนเองถูกเอาคืนนั้น พลตำรวจตรีนำเกียรติ บอกว่า เป็นรายละเอียดในคดีนี้ไม่ขอเปิดเผยและตนเองก็ไม่ได้รับผิดชอบในคดีนี้แล้ว

พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่หนักใจ เพราะในอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา หน้าที่ของตนเองคือการแก้ปัญหา

ขณะที่ พ.ต.อ.เขมรินทร์ บอกด้วยว่า ไม่มีการหนักใจเช่นกัน เพราะถือเป็นชุดสืบสวนสอบสวนชุดแรก และพร้อมให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว แต่เป็นขั้นตอนที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง