คัดลอก URL แล้ว
ลามไม่หยุด! “ไฟป่าอุทยานฯ ออบหลวง” ไหม้แล้วกว่า 3.3 หมื่นไร่

ลามไม่หยุด! “ไฟป่าอุทยานฯ ออบหลวง” ไหม้แล้วกว่า 3.3 หมื่นไร่

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินทิ้งน้ำช่วยบรรเทาความรุนแรงของไฟป่าที่เกิดบนภูเขาสูงและหน้าผา ในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง หลังเกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างหนักมานานนับสัปดาห์ โดยเฉพาะบริเวณผาดำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยากลำบากต่อการเข้าถึง ต้องเดินทางเข้าพื้นที่นานกว่า 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้วางแผนตักน้ำจากอ่างน้ำห้วยสะแพด ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง มาใช้ดับไฟป่าในอำเภอฮอด รวมถึงอ่างเก็บน้ำใกล้เคียง

ขณะที่ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานรถแบคโฮ ช่วยขุดบ่อในลำน้ำแจ่ม ให้มีความกว้างเพิ่มขึ้นให้เฮลิคอปเตอร์สามารถลงตักน้ำเพื่อใช้ดับไฟใกล้จุดไหม้ไฟได้เร็วและดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ที่ร่วมปฏิบัติการบินพ่นน้ำดับไฟต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 ควบคู่ไปกับการดับไฟของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ อำเภอฮอด ตรวจพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นใหม่ 42 จุด จากทั้งหมด 142 จุดทั่วเชียงใหม่

ด้านนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ สั่งระดมกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฝ่ายปกครอง ทหาร ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน 250 นาย ลงพื้นที่เร่งช่วยสกัดไฟ โดยเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ดับไฟป่าให้จบโดยเร็ว หากพบคนจุดไฟเผาป่าอีกให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ยังสั่งงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงทุกพื้นที่ระหว่างวันที่ 27 – 29 กุมภาพันธ์ เนื่องด้วยสถานการณ์ไฟป่ามีความรุนแรง ประกอบกับอัตราการระบายอากาศต่ำ ส่งผลให้ค่า PM 2.5 สูงขึ้น

สำหรับข้อมูลการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 พบมีรวม 191 จุด มีพื้นที่ถูกไฟไหม้แล้ว 33,000 ไร่ หากเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2566 มีจุดความร้อนมากถึง 625 จุด พื้นที่ถูกไฟไหม้ 79,985 ไร่ ถือว่าลดลงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามวันนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นอีก 142 จุด ในพื้นที่ 12 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ และถือว่าเกิดจุดความร้อนมากเกิน 100 จุดเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยพบมากสุดในพื้นที่อำเภอ แม่แจ่ม 52 จุด รองลงมาคืออำเภอฮอด 42 จุด

ด้านสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวันนี้ พบ 2 อำเภอ จาก 25 อำเภอ ที่ค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน คืออำเภอฝางและอำเภอไชยไชยปราการ วัดได้ 87 และ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ นอกนั้นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม ระหว่าง 54 – 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


ข่าวที่เกี่ยวข้อง