วันนี้ (15 ก.พ.67) นางณพัชญ์ปภา จรรยา อายุ 43 ปี ภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับทนายความ ตามหมายเรียกในข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดฯ ก่อนจะเดินเข้าไปพบพนักงานสอบสวนภายในห้องสอบสวนที่ชั้น 16 ทันที
โดยเจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉย และขอยังไม่ตอบคำถามใด ๆ ซึ่งสื่อมวลชนพยายามเข้าไปสอบถามเจ้าตัวในหลายประเด็น ทั้งวันนี้รู้สึกกังวลหรือไม่ วันนี้เตรียมพยานหลักฐานอะไรมาบ้าง และเรามีส่วนรู้เห็นกับเงิน 5 แสนหรือไม่ รวมถึงเรามีส่วนร่วมกับการตบทรัพย์หรือไม่ โดยภรรยานายศรีสุวรรณ ได้แต่ยกมือไหว้ และบอกว่า ”ขอยังไม่ให้คำตอบ ขออนุญาติยังไม่ตอบ ขอโทษด้วยนะคะ“
ต่อมา พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า วันนี้นาง ณพัชญ์ปภา อายุ 43 ปี ภรรยาของนายศรีสุวรรณ มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
ซึ่งก็ถือว่าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากนี้ก็จะมีการสอบปากคำ และพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบ และคาดว่าพนักงานสอบสวนน่าจะให้ประกันตัว ซึ่งตนยังไม่ได้มีการสอบถามถึงพฤติกรรม เพียงแต่ให้กำลังใจ
เบื้องต้นตนเชื่อว่าภรรยาของนายศรีสุวรรณมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการรับเงิน 500,000 บาท และมีความเชื่อมโยงไปถึงเงิน 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินชุดแรกที่ผู้เสียหายโอนให้กับแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ในช่วงก่อนปีใหม่
ส่วนที่วานนี้พนักงานสอบสวนได้มีการเรียกบัญชีม้าของนายศรีสุวรรณมาสอบปากคำ เกี่ยวกับการเงินในบัญชี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว แล้วจะพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือจากการบัญชีม้าคนดังกล่าวไว้เป็นพยาน พร้อมกับยืนยันว่าคดีนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสรุปสำนวนอย่างชัดเจนในอีกไม่นานนี้ ส่วนเรื่องการยึดอายัดทรัพย์นั้น บก.ปปป.ได้มีการประสานงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.มาโดยตลอด
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ที่พนักงานสอบสวนได้มีการนัดหมายให้นายศรีสุวรรณมายื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหานั้น สามารถให้ทนายความเข้ามายื่นเรื่องแทนก็ได้ และจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนก็ยังสามารถติดต่อกับทนายความของนายศรีสุวรรณได้อยู่
ส่วนการพูดคุยกับนายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการพูดคุยและดูหลักฐานทางแชทแอปพลิเคชันไลน์ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคดีตบทรัพย์
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังได้บอกอีกว่า ขณะนี้ข้อมูลที่พนักงานสอบสวนมีอยู่ยังค่อนข้างเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับนักร้องคนอื่น โดยรองผู้บัญชาการถึงกับพูดติดตลกว่า “ก็เป็นกลุ่มคนดีที่มารวมตัวกัน”