กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป.,พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ,พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สว.กก.1 บก.ป.,ร.ต.อ.ดิฐาศักดิ์ โชติเธียรศรณ์
รอง สว.กก.1 บก.ป.,ร.ต.ท.เดชา คำรังษี รอง สว (ป.) กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นางแก้วตาฯ อายุ 57 ปี ตามหมายศาลจังหวัดอุดรธานี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถแมนชั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2564 นางแก้วตาฯ (ผู้ต้องหา) พร้อมทนายบี ได้เดินทางมาที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าจะจ่ายเช็คค่าซื้อที่ดินให้กับทนายบี โดยได้สั่งจ่ายเช็คเพื่อเรียกเก็บเงินกับทางธนาคาร จำนวน 60,000 บาท ซึ่งทางธนาคารก็ได้ออกใบรับเช็คไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ต่อมาภายหลังจากที่ผู้ต้องหาได้สั่งจ่ายเช็คไปแล้ว 3 วัน ผู้ต้องหาได้มายื่นขอเอาใบเช็คคืน โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ซื้อที่ดินดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้ให้เช็คคืนไป และหลังจากนั้นทนายบี ก็ได้ถือใบรับเช็คมาโวยวายกับทางธนาคาร อ้างว่าการ ที่ธนาคารคืนเช็คให้กับผู้ต้องหาไป ทำให้ทนายบีไม่ได้รับเงินที่ควรจะได้ ทางธนาคารจึงได้ไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายตามระเบียบให้กับทนายบี
ซึ่งต่อมาภายหลังทางธนาคารพบว่าพฤติการณ์ของนางแก้วตาฯ กับ ทนายบี ทำไปเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์โดยใช้อุบายหลอกเจ้าหน้าที่ธนาคาร อาศัยช่องโหว่ของระเบียบธนาคารเรียกร้องค่าเสียหาย ทำให้ธนาคาร
ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ อีกทั้งยังพบว่าทั้งสองร่วมกันทำในลักษณะเช่นนี้มาแล้วกับหลายธนาคาร ภายหลังทางธนาคารจึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.เมืองอุดรธานี จนกระทั่งได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาและพวก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นางแก้วตาฯ ได้หลบหนีคดีมาอยู่ในซอยลาดพร้าว 130 จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณในซอย กระทั่งพบ นางแก้วตาฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แสดงหมายจับ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบก่อนทำการจับกุมตัวนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
