เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตกำนันปิ๊งไอเดียร์ปลูกแตงโมแบบเกษตรอินทรีย์เพิ่มรายได้ โดยปลูกแตงโมในเรือนเพาะชำแบบปิดเลี้ยงยอดแตงโมให้สูงขึ้นเป็นแนวตั้ง เมื่อออกผลผูกเปลให้นอน พร้อมทำแบบครอบเป็นรูปหัวใจเพิ่มมูลค่า จำหน่ายในราคาสูงกว่าท้องตลาด ที่บ้านเลขที่117 ม.3 บ้านมะเกลือ ต. มะค่า อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา
นายนิพนธ์ เปลี่ยนกลาง อายุ 65 ปี อดีตกำนันแหนบทองคำตำบลมะค่า และประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เจ้าของสวนแตงโมอินทรีย์ เปิดเผยว่า มีความสนใจในเกษตรอินทรีย์หรือการปลูกพืชไร้สารเคมีจึงได้ศึกษาวิธีการปลูก ตัดสินใจจะปลูกแตงโมจึงเริ่มสร้างโรงเรือนที่มีความกว้าง 6 เมตรยาว 12 เมตรและเริ่มปลูกแตงโมแบบปลอดสารเคมี 100% โดยอาศัยใส่ปุ๋ยคอกเป็นหลัก โดยสามารถปลูกแตงโมได้ 100 ต้น ตนเองลองผิดลองถูกเป็นเวลากว่า 1 ปี จนได้ผลผลิตที่น่าพอใจ แตงโมปลอดสารของตนมีรสชาติหวานและมีความกรอบอร่อย สามารถเก็บไว้ได้นาน
วิธีการปลูกเริ่มต้นโดยการจากนั้นจัดเตรียมดินใส่ปุ๋ยหมักน้ำหมักชีวภาพใช้ผ้ายางหมักดินไว้ 15 วัน พร้อมกับการเพาะเมล็ดด้วยถาดใช้เวลา 15 วัน เช่นกัน แล้วนำต้นกล้าที่เพาะไว้ลงแปลง โดยเทคนิคในการปลูกอยู่ที่การเด็ดยอดให้แตงโมแตกยอด จากนั้นคัดยอดที่สมบูรณ์ที่สุดเหลือเพียง 2 ยอดแล้วใช้เชือกขึงเป็นแนวตั้งให้แตงโมเลื้อยตามเชือกขึ้นเป็นต้นจากด้านล่างสู่ด้านบน โดยไม่ได้เลี้ยงให้แตงโมเลื้อยตามพื้นเหมือนกับการปลูกแตงโมทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงเริ่มผสมเกสรด้วยตนเองเนื่องจากโรงเรือนเป็นแบบปิดจะไม่มีแมลงเข้ามาจึงต้องผสมเกสรด้วยตัวเองทุกต้น ใช่การนับใบจากใบแรกถึงใบที่ 15 จึงเริ่มผสมเกสรหากเราผสมตามเกณฑ์ไปแตงโมจะไม่โต คอยเฝ้ามันดูแลพอแตงโมออกผล ตนก็จะนำตาข่ายสีฟ้ามาทำเปลนอนให้กับแตงโมเพื่อรองรับน้ำหนัก จึงเป็นที่มาของชื่อแตงโมนอนเปล และยังมีไฮไลท์ต้อนรับวันวาเลนไทน์คือการนำกรอบพลาสติกมาครอบเป็นบล็อกเพื่อให้แตงโมเจริญเติบโตมาเป็นแตงโมรูปหัวใจ โดยเริ่มใส่บล็อกตั้งแต่ลูกแตงโมได้ขนาดประมาณ 1 กิโลกรัมซึ่งสร้างความสวยงามแปลกตาให้กับผู้ที่ได้พบเห็น ขณะนี้มียอดจองเต็มทั้งสวน
สำหรับราคาของแตงโมนอนเปลจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ65บาท สำหรับแตงโมรูปหัวใจเพิ่มพิเศษอีก 100 บาท ซึ่งปกติผลผลิตของสวนแตงโม 1 ลูกจะให้ผลผลิตลูกละประมาณ 5 กิโลกรัมราคาประมาณ 325 บาท ซึ่งราคาขายแตงโมเกษตรอินทรีย์ ซึ่งแพงได้สูงกว่าท้องตลาดถึง 4 เท่าตัว ถือว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้เป็นอย่างดี