คดีการเสียชีวิตของหญิงวัย 77 ปี จ.จันทบุรี หลังตำรวจนำรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยมาเก็บหลักฐาน จนนำมาสู่การสอบปากคำผู้ต้องสงสัย ล่าสุดทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 3 คน สาเหตุอ้างว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องการทวงหนี้
รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อยามาฮ่า ที่คาดว่าเป็นรถที่นำมาใช้ในการก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.ปนิฐิ โกศลานันท์ อายุ 77 ปี เศรษฐีที่ดินในจังหวัดจันทบุรี ถูกตำรวจสืบสวน สภ.มะขาม ใช้แกะรอยเก็บรอยนิ้วมือแฝง จนนำมาสู่การเชิญตัวชายต้องสงสัย มาสอบปากคำ
ล่าสุดนายกฤษฎ์ อายุ 40 ปี ยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับผู้ก่อเหตุอีก 2-3 คน ประกอบด้วยผู้หญิง1 คน นางปุ้ย ส่วนอีก 2 คนเป็นชายวัยรุ่น
โดยตนเองทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาผู้ร่วมก่อเหตุมาทวงหนี้กับผู้ตาย ไม่ได้เข้าไปร่วมก่อเหตุด้วย หลังก่อเหตุจึงนำศพไปโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง โดยอ้างว่ามีมูลเหตุเรื่องการทวงเงินค่าแรงแล้วไม่ได้ หรือทวงหนี้แล้วไม่ได้ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุทั้งหมดสามารถเข้าไปในบ้านของผู้ตายได้ สืบเนื่องจากมี 1 ในผู้ก่อเหตุมีกุญแจ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ตายไว้วางใจ เป็นคนเปิดประตูให้เข้าไปด้านใน
วันนี้ตำรวจยังได้มีการเชิญตัวพ่อของนายกฤษฎ์ผู้ต้องหามาให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นให้การลูกชายได้เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุมีผู้หญิงโทรศัพท์มาตามให้ไปช่วยขับรถ โดยบอกเพียงว่าจะไปทวงเงินที่บ้านของผู้ตาย
พร้อมกันนี้ยังได้เชิญสามีของนางปุ้ย ซึ่งยังเป็นผู้ต้องสงสัย มาให้ข้อมูล เบื้องต้นบอกเพียงว่า นางปุ้ย ทำธุรกิจเรื่องเงินกู้กับผู้ตายมาได้ประมาณ 1 ปี ส่วนรายละเอียดนั้นไม่ทราบ เนื่องจากแยกกันอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน เพราะนางปุ้ยไปบวชชีที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สอยดาว
ล่าสุดตำรวจตาม นางปุ้ย ได้ที่ ต.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี อยู่ระหว่างนำตัวกลับมาสอบปากคำที่ จ.จันทบุรี