กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ. และ พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.2
ร่วมกันจับกุม หญิงรายหนึ่ง อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 960/2563 ลงวันที่ 30 มิ.ย.63 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันโฆษณาอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
สถานที่จับกุม ตม.ขาเข้า ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากวันที่ 1 มิ.ย.2559 ได้มีตัวแทนของผู้เสียหายกว่า 80 คน เข้ามาพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทฯ นำเที่ยวแห่งหนึ่ง เนื่องจากผู้เสียหายได้มีการค้นหาบริษัทนำเที่ยวที่มีการพาทัวร์ไปที่ประเทศญี่ปุ่นผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยพบบัญชีเฟซบุ๊กของบริษัทนำเที่ยวของผู้ต้องหาลงโพสต์ประกาศพาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน ผู้เสียหายจึงได้พูดคุยทำสัญญาและได้ชำระค่าทัวร์ท่องเที่ยว โดยแบ่งชำระ 2 งวด งวดละ 1,769,600 บาท รวมเป็นเงิน 3,539,200 บาท ซึ่งทัวร์ดังกล่าวจะเดินทางในวันที่ ๒๓-๒๗ พ.ค.๒๕๕9 แต่ต่อมาเมื่อใกล้ถึงเวลาดังกล่าว ผู้เสียหายกลับได้รับแจ้งว่าโปรแกรมท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่ตกลงกันไว้ มีปัญหา ไม่สามารถเดินทางได้ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับบริษัทฯ ทัวร์ดังกล่าวได้อีก ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาเเจ้งความดำเนินคดี ภายหลังพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในฐานะกรรมการบริษัทฯ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. จึงได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา โดยสืบทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงพื้นที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเมื่อผู้ต้องหามาถึง จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมตัว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
