“พล.อ.ประยุทธ์“ คืนถิ่น ร่วมงานสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบ 114 ปี สีหน้าแจ่มใส ทักทายสื่อ บอกสบายดี ขณะที่บิ๊กเหล่าทัพ-อดีตแม่ทัพ 1 ร่วมงานคึกคัก
เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2567 ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบปีที่ 114 ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 โดยมีพล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้การต้อนรับ และมีอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมพิธี อาทิ อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าร่วมพิธีด้วยอาทิ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา , พล.อ.กู้เกียติ ศรีนาคา , พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ , พล.อ.วลิต โรจนภักดี , พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร , พล.อ.บัณฑิต มลายอริศูนย์ ,พล.อ.นิพนธ์ ภารัญนิตย์ , พล.อ.ไพศาล กตัญญู และ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปี 2549 ถึงปี 2551 ในช่วงเกิดสถานการณ์ทางการเมืองหลังเหตุรัฐประหาร 2549 นำโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นอกจากนี้ ยังมี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้แทนเหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย โดยมี พล.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้การต้อนรับ
โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงได้ถวายความเคารพพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 และเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งหลังเสร็จพิธีได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับอดีตแม่ทัพภาคที่ 1
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปี 2549 ถึงปี 2551 ในช่วงเกิดสถานการณ์ทางการเมืองหลังเหตุการรัฐประหาร 2549
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่สีหน้าแจ่มใส ยิ้มทักทายสื่อมวลชน พร้อมบอกว่าสบายดี ก่อนจะขึ้นรถกลับ
ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 1 จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2453 ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีผู้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 มาแล้ว 56 คน ปัจจุบัน เป็นลำดับที่ 57 มีภารกิจดูแลความมั่นคงในพื้นที่ กทม. และ 25 จังหวัดภาคกลาง มีหน่วยขึ้นตรง 23 หน่วย
พร้อมทั้งจัดกำลังชายแดนรวม 2 กองกำลัง คือ กองกำลังบูรพา รับผิดชอบชายแดนด้านตะวันออก พื้นที่จังหวัดสระแก้ว ระยะทางยาว 168 กิโลเมตร และกองกำลังสุรสีห์ รับผิดชอบชายแดนตะวันตก ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมเป็นระยะทางยาว 846 กิโลเมตร
โดยมีหน้าที่หลักในการรักษาความมั่นคงภายใน รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ เตรียมกำลังให้มีความพร้อม และพิจารณาระดับการใช้กำลังตามสถานการณ์ รวมทั้งการพัฒนาประเทศ และสนับสนุนงานของรัฐบาลตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น การดูแลสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ได้ปฏิบัติภารกิจถวายพระเกียรติ ถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งนี้ยังเป็นกำลังหลักในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และสามารถปรับตัวให้พร้อมเผชิญกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ เพื่อให้เป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และเป็นกองทัพที่ทันสมัย มีศักยภาพ มีเอกภาพ และประสิทธิภาพ มีเกียรติและศักดิ์ศรี