เปิดเซฟ “นายกฯ เศรษฐา” รวย 1,020 ล้านบาท นาฬิกา 38 เรือน 127 ล้านบาท เช่น ปาเต๊ะฟิลลิปรุ่นใหม่ 30 ล้านบาท มีรถยนค์คันเดียว Aston Martin 50 ล้านบาท มีบุตร 3 คน ได้รับเงินรายปีจากบุตร 20 ล้านบาทส่วน”พญ.พักตรพิไล” มี “พระไพรีพินาศ-หลวงปูแหวน” 2 องค์ประเมินค่าไม่ได้ และเครื่องประดับมูลค่ากว่า 131 ล้านบาท
สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในครั้งนี้จำนวน 13 คน โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยมีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสรวม 1,020,468,727 บาท มีหนี้สินจำนวน 10,182,549 บาท
โดยรายการทรัพย์สินของนายเศรษฐา มีจำนวน 659,391,610 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย เงินสดจำนวน 1 ล้านบาท, เงินฝาก 68,986,558 บาทในจำนวน 47 บัญชี, เงินลงทุน 1,301,668 บาท, ที่ดิน ในเขตคลองเตยพระโขนงเนื้อที่ 1 งาน 98 ตารางวามูลค่า 158,400,000 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 156,423,120 บาท เป็นห้องชุด ที่หัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ บ้าน 3 ชั้นที่คลองเตย กทม. มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท, ยานพาหนะ 50 ล้านบาท โดยมีรถยนต์ Aston Martin รุ่น DB5 มูลค่า 50ล้านบาท, สิทธิ์และสัมปทาน 87,539,563 บาท
ทรัพย์สินอื่น 135, 740,700 บาท ประกอบไปด้วยนาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 121,953,100 บาท เช่น นาฬิกา Patek Philippe 5470P -001 มูลค่า 30,000,000 บาทได้มาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565, พระเครื่อง -ตระกุด 6 องค์ มูลค่า 1,622,600 บาท, สร้อยคอทองคำ 1 เส้น 165,000 บาท และหีบหลุยส์วิตตอง x สุพรีม 1 ใบ 6 ล้านบาท
และมีรายการหนี้สินเงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 9,732,579 บาท
ขณะที่คู่สมรส นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา มีทรัพย์สิน 361,077,116 บาท ประกอบไปด้วยเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 38 บัญชีจำนวน 47,023,391 บาท, เงินลงทุน 52,352,913 บาท, ยานพาหนะ 2,800,000 บาท มีรถยนต์ Toyota Alphard Hybrid X2.5 1,370,000 บาท, รถยนต์ FIAT รุ่น 500 Abart Trbuto 680,000 บาท และรถยนต์ Tesla รุ่น Model Y Standard 750,000 บาท, สิทธิ์และสัมปทาน 845,511 บาท
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นมูลค่า 256,255,300 บาท ประกอบด้วย นาฬิกาจำนวน 31 เรือน มูลค่า 84,869,300 บาท, กระเป๋า 48 ใบ 37,010,500 บาท เช่น Hermes Birkin ไซส์ 30 Black Matte Color หนัง Porosus Crocodile มูลค่า 2,080,000 บาท, พระเครื่อง 2 องค์ ไพรีพินาศ และหลวงปูแหวนที่ประเมินมูลค่าไม่ได้, เสื้อผ้า 5 ชุด 2,820,000 บาท และมีเครื่องประดับ เข็มกลัดมุก สร้อยเพชร ไข่มุก กำไรตะปูฝังเพชร ต่างหูเพชร ที่เป็นอัญมณี แหวนเพชรอัญมณีจี้ทองฝังเพชร จี้เพชร มูลค่ารวม 131,390,500 บาท โดยมีรายการหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 449,970 บาท
สำหรับข้อมูลรายได้และรายจ่ายต่อปีของนายเศรษฐา มีรายได้ประจำ เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 153,570,160 บาท เป็นเงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท , เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท ส่วนรายได้จากทรัพย์สินเงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LMF กับ RMF 12,069 บาท โดยยังมีรายได้จากที่บุตรให้รายปีจำนวน 20 ล้านบาท และมีรายได้อื่นเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุจำนวน 13,333,333 บาท รวมรายได้ต่อปีเฉพาะของนายเศรษฐา 253,636,771 บาท
โดยมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 36,500,000 บาทและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,900,000 บาท มีรายจ่ายค่าอุปการะมารดา 4,762,000 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 8 ล้านบาท ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,957 บาทเงินบริจาค 465,000 บาท
นายเศรษฐามีบุตร 3 คน นายณภัทร ทวีสิน ,นายวรัตม์ ทวีสิน และนางสาวชนัญญา ทวีสิน โดยก่อนหน้านี้ประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี หรือ ปี 2564 นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน และในปี 2553 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่