คัดลอก URL แล้ว
ศาลยกฟ้อง “นาราเครปกะเทย” หมิ่นเบื้องสูง

ศาลยกฟ้อง “นาราเครปกะเทย” หมิ่นเบื้องสูง

วันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนาย อนิวัติ ประทุมถิ่น หรือ “นาราเครปกะเทย” จำเลยในความผิด “ดูหมิ่นสถาบัน” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาในคดี “ดูหมิ่นสถาบัน” หมายเลขดำ อ.2244/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนาย อนิวัติ ประทุมถิ่น หรือ “นาราเครปกะเทย” อายุ 24 ปี จำเลยในความผิด “ดูหมิ่นสถาบัน” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) (3) ตลอดจนร่วมกันใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมโดยรวม ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ในเวลา 09.00 น.

เมื่อถึงเวลาศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำโฆษณา ส่งเสริมการขายบุคคลที่ปรากฏในคลิปแต่งกายด้วยชุดไทย หากพิจารณาด้วยความเป็นกลางบุคคลทั่วไปสามารถแต่งกายด้วยชุดไทยได้และไม่มีสัญลักษณ์หรือตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอรับฟังได้ว่า การกระทำของจำเลย เป็นความผิดฐานหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ส่วนข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์นั้นศาลเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยมีอาชีพ ทำคลิปส่งเสริมการขายและเสนอขายสินค้าที่มีอยู่จริงจึงไม่มีความผิด ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ และความผิดพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคและพระราชบัญญัติขายตรงนั้น เห็นว่า จำเลย โฆษณาไปตามข้อเท็จจริง จึงไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษานายอนิวัฒน์ หรือ นารา ร้องไห้ด้วยความดีใจและยกมือไหว้ย่อขอบคุณศาล และสวมกอดกับเพื่อนที่มาให้กำลังใจ

ด้านนาย ขจรศักดิ์ อื้อศรีสกุล ทนายความของ นารา กล่าวว่า ศาลเห็นว่า การกระทำของนาราไม่เป็นการ หมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาทร้ายในลักษณะเข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยกฟ้องในข้อหา พ.ร.บคอมพิวเตอร์ และข้อหาอื่นทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามที่ทนายได้มีการวางกรอบแนวทางการต่อสู้ไว้ แม้ว่าฝ่ายอัยการโจทก์จะยื่นอุทธรณ์คดีแต่ทนายก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อ ส่วนพฤติกรรมในคดี ม. 112 หากคนทั่วไปมองคลิป ในเรื่องของการโฆษณา และมองด้วยความเป็นกลางไม่มีอคติ โดยวิญญูชนทั่วไป ก็สามารถทำคลิปได้ พร้อมฝากถึงประชาชนถ้าทำคลิปในลักษณะนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม เนื่องจากศาลจะพิจารณา เจตนา เป็นแต่ละกรณีไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง