อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข่าวร้ายรับปีใหม่ หลังจาก กกพ.มีมติให้ปรับค่าไฟฟ้าฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดมกราคมถึงเมษายน ปีหน้าอีก 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาท 68 สตางค์ต่อหน่วย
ประเด็นนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เตรียมหารือด่วนในสัปดาห์หน้า ขอให้รัฐบาลทบทวน เนื่องจากกระทบต่อต้นทุนผู้ประกอบการ และสวนทางนโยบายลดค่าครองชีพประชาชน
เจ้าของร้านเสริมสวยในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร แสดงบิลค่าไฟฟ้าที่ต้องชำระในแต่ละเดือน อยู่ที่เดือนละ 2,000 กว่าบาท ไปจนถึง 4,000 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับการใช้ไฟและค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (Ft)โดยระบุว่า ค่าไฟฟ้าในขณะนี้ยังคงสูง แม้ว่ารัฐจะมีนโยบายลดค่าไฟแล้ว และกำลังกังวลว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดใหม่ เดือนมกราคมถึงเมษายนปีหน้า อีก 89.55 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นใกล้แตะหน่วยละ 5 บาท กระทบต่อต้นทุน เนื่องจากร้านเสริมสวยใช้ไฟค่อนข้างมาก เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ใช้ไฟฟ้า จึงต้องการให้รัฐบาลชะลอไปก่อน
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า จากมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ จะทำให้ค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ย อยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้นจากงวดปัจจุบันที่ 3 บาท 99 สตางค์ต่อหน่วยนั้นคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. จะมีการหารือในประเด็นนี้เป็นกรณีเร่งด่วนในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ เพราะกระทบต่อผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น สวนทางกับนโยบายลดค่าครองชีพประชาชน จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนการปรับขึ้นค่าไฟ
นายเกรียงไกร ยังระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ โดยลดค่าไฟลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยอมรับว่า ค่าไฟในระดับนี้ยังถือว่าสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ที่อยู่ประมาณ 2 บาท 70 สตางค์ และคงที่เป็นเวลานาน ไม่เหมือนกับไทยที่ต้องลุ้นทุก 4 เดือน และหากปรับไปอยู่ 4.68 บาทต่อหน่วย ถือว่าปรับค่อนข้างมาก ส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ค่าไฟฟ้างวดใหม่ จะไม่สูงตามมติ กกพ. อย่างแน่นอน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ หาวิธีการดูแลค่าไฟงวดใหม่ไม่ให้สูง จนกระทบค่าครองชีพประชาชน โดยจะดูแลอัตราค่าไฟให้ใกล้เคียงกับปัจจุบันอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคมนี้)