คัดลอก URL แล้ว
เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด”

เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด”

เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” พบตั้งแก๊งล่านร.ช่าง ตั้งกองทุนสู้คดี ตำรวจค้น 4 จุด จับ 8 คน หัวโจกมีคดีค้างเก่ายิงนศ.อุเทนถวาย เมื่อเดือนม.ค.66

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เปิดเผยภายหลังสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยคดียิง นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 อุเทนถวาย บาดเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และกระสุนยิงไปถูก น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาพอดีเสียชีวิต ล่าสุดตำรวจได้ควบคุมตัวแก๊งที่ก่อเหตุ 8 คนมาสอบสวน โดยพล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายเข้าค้นและจับกุม เมื่อเช้านี้

ซึ่งพบว่ากลุ่มนี้มีแกนนำซึ่งเป็นอดีตนักศึกษา และหาแนวร่วมนักศึกษาสถาบันอื่นๆ มาเช่าที่พักร่วมกันรวมทั้งอยู่ในโลกเสมือน สร้างตัวตน มีการสร้างแรงฮึกเหิมปลุกใจในกลุ่มด้วยการนำรูปผู้เสียชีวิตต่างสถาบันติดไว้ในที่พักของกลุ่ม และจะถอดรูปแบบการก่อเหตุในแต่ละครั้งเพื่อพัฒนาการลงมือและการหลบหนี ซึ่งที่ผ่านมายังได้สร้างสถานการณ์เพื่ออำพรางคดีลักษณะเดียวกันที่ย่านมีนบุรี พบประวัติตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพื่อติดตามตัวทั้งหมดมาดำเนินคดี


เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” หลังจากใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 1 สัปดาห์ โดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. คุมบังเหียนชุดสืบสวน ใช้ตำรวจมือดีทั่วนครบาลทำคดี การสืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล พบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน ทั้งขโมยป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาชุดสืบสวน มีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุดังกล่าว หลังทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยงพบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มครู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮ้าส์อีก 4 แห่งวงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม


ผู้ต้องหารายสำคัญคือนายนายพฤฒิพล อายุ 22 ปี ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร , ร่วมกันยิงปืน(ซึ่งใช้ดินระเบิด)โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน คดีที่ยิงพลาดถูกครูเจี๊ยบ และ นักศึกษาอุเทน นายพฤฒิพล ทำหน้าที่วางแผนและช่วยเหลือกลุ่มคนร้าย และทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ จากการสอบประวัติพบว่า มีคดีค้างเก่ายิงนักศึกษาอุเทนถวายบริเวณ หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่ขี่จยย.ให้กับมือปืน คดีนี้จับกุมมือปืนได้แต่นายพฤฒิพลหลบหนีไปได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 7 คนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ นอกจากนี้ในแชทของกลุ่มพบข้อความแสดงความยินดีที่รุ่นน้องสร้างผลงานยิงนักศึกษาอุเทนถวายได้


ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่าแก๊งนี้พัฒนาเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไม่ใช่แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มีการวางแผนกันเป็น 10 คน “ยิ่งกว่าในภาพยนตร์” มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง