“อี้ แทนคุณ” เตรียมยื่นสอบ “ส.ส.ฝั่งธน” หลังผู้ช่วยโพสต์ให้ทหารมาส่งอาจเข้าข่ายแทรกแซงการบริหารราชและแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตน ผู้อื่นและพรรค
17พ.ย.66
ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระรักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณี พบผู้ช่วยส.ส.มีทหารเรือยศพันจ่า 2 นายมาบริการขับรถไปรับจากสนามบินไปส่งที่โรงแรมอย่างสะดวกสบายและมีการกล่าวถึงผู้บริหารระดับผู้อำนวยการ ชื่อ ย่อ น. ที่ให้ลูกน้องมารับส่งทั้งที่พรรคนี้โจมตีด้อยค่าทหาร กองทัพและสถาบันมาตลอด โดยเฉพาะการทำหน้าที่รับใช้นักการเมืองแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องปกติโดยเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร นำมาเปิดเผยและประสานให้ตนตรวจสอบความเชื่อมโยงว่าเป็นคำสั่งหรือการประสานงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือส.ส. ของพรรคก้าวไกลที่อยู่ฝั่งธนบุรีหรือไม่ โดยพบว่าผู้ช่วยคนดังกล่าวมีความสนิทสนมกับส.ส.ที่ช่วยอยู่มากๆและติตตามตลอดเวลา โดยการกระทำดังกล่าวต้องตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรและส.ส.รู้เห็นเป็นใจในการไปรับบริการโดยใช้รถหลวงจากภาษีประชาชนด้วยหรือไม่ และมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภารกิจที่ต้องไปมากน้อยแค่ไหน โดยเชื่อว่าการที่นายทหารระดับผู้อำนวยสั่งการให้น่าจะต้องให้คนเป็นส.ส.เป็นคนประสานงานไปซึ่งตอนนี้มีข้อมูลพอสมควรเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกันก็อาจเข้าข่าย การทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมการทำหน้าที่ของ ส.ส.ดูแลคนไทยทั้งประเทศแต่การปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องดูรัฐธรรมนูญเป็นหลัก การไปพบกับปัญหาและนำมาพูดในสภาเพื่อส่งต่อให้ฝ่ายบริหาร คือช่องทางที่ทำได้แต่จะไปสั่งการ ก้าวก่ายหรือแทรกแซงข้าราชการทหารต้องพิจารณา กรณีดังกล่าวคือหากชัดเจนว่าเพื่อประโยชน์ของตนหรือพรรคของตัวเองแม้จะเป็นทางวาจาหรืออ้างว่าเลิกงานแล้วแต่ลักษณะดังกล่าวย่อมต้องมีการประสานงานไวัก่อนล่วงหน้าในเวลาราชการซึ่งหากเกี่ยวข้องกับส.ส.อาจเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงได้ ตามมาตรา 101(7) คือรับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ ไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะที่เป็น การก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม โดยการกระทำดังกล่าวของผู้ช่วยส.ส.คนสนิทส.ส.คนดังกล่าวหากพบว่าส.ส.คนดังกล่าวรู้เห็นเป็นใจและสนับสนุนหรือเป็นตัวการในการประสานหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง ย่อมเข้าข่ายความผิดอย่างชัดเจน ตนจึงเรียกร้องไปยัง ป.ป.ช.ให้มาติดตามการกระทำดังกล่าวและตนจะไปยื่นร้องเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป