ความคืบหน้าในคดียาเสพติดและฟอกเงิน ของเครือข่าย ‘ไซซะนะ’ โดยในวันนี้ (24 ต.ค.66) ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ กับพวกในข้อหาสมคบ ค้ายาเสพติด – ฟอกเงิน
คดีนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเวลานั้น เนื่องจาก ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ นักแข่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นอดีตสามีของนักแสดงสาวชื่อดัง ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน เนื่องจากถูกให้การซัดทอดจาก นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ว่าได้นำทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดไปไว้ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’
‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ คือใคร
เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจให้บริการจำหน่ายอุปกรณ์และตกแต่งรถจักยานยนต์บิ๊กไบค์ AREA 51ซึ่ง ตั้งอยู่ในซอยอินทามาระ
ด้วยความที่ชื่นชอบในรถจักยานยนต์บิ๊กไบค์ ทำให้เบนซ์ เริ่มเข้าสู่วงการแข่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ โดยเริ่มจากการแข่งขันในสนามต่าง ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์กระทั่งสามารถความแชมป์มาได้หลายสนามทั้งที่ไทย และต่างประเทศ จนถูกยกให้เป็นไอดอลแห่งวงการบิ๊กไบค์ จนเป็นที่มาของชื่อ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’
นอกจากนี้เขายังเป็นอดีตสามีของนักแสดงสาวชื่อดัง แพท ณปภา ซึ่งทั้งคู่ได้รู้จักกันมานานกว่า 10 ปี และมีทายาทด้วยกัน 1 คน
โดนข้อหาอะไรบ้าง
ในคดีนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ซึ่งในช่วงนั้นการกวาดล้างยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างเข้มข้น กระทั่งตำรวจ ปส. สามารถติดตามจับกุมตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวสปป.ลาว ซึ่งเป็นราชายาเสพติดรายใหญ่ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2560
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขยายผลจับกุมนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ซึ่งให้การซัดทอดว่าได้นำทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดไปไว้ที่ นายอัครกิตติ์ หรือ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าบุกค้นร้านแต่งรถบิ๊กไบค์ของ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2560 ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงของรถยนต์หรู ยี่ห้อ ลัมโบร์กีนี กัลลาโด ที่ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ ครอบครองอยู่ ว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายไซซะนะ
โดย ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2560 และถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฟอกเงิน” ในช่วงเดือน มี.ค.2560 ก่อนยื่นหลักทรัพย์ 500,000 บาท ขอประกันตัว
กระบวนการในชั้นศาล
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2561 ศาลอาญา มีคำพิพากษา ให้จำคุก “เบนซ์ เรซซิ่ง” เป็นเวลา 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุน หรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปรามยาเสพติด โดยได้ยื่นขอสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และขอประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีวงเงิน 1 ล้านบาท
วันที่ 25 มิ.ย. 2563 ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้จับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ ซึ่งมี “เบนซ์ เรซซิ่ง” รวมอยู่ด้วย ขณะขับขี่รถบริเวณโรงแรมรามาการ์เด้น ในช่องทางด่วนถนนวิภาวดี รังสิต โดยพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา กระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ ผิด พ.ร.บ.จราจรฯ
ต่อมาวันที่ 11 ก.พ.2564 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า “เบนซ์ เรซซิ่ง” พร้อมจำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ พ.ร.บ. การฟอกเงิน ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 5,000,000 บาท ซึ่งทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงรวมจำคุก มีกำหนด 36 ปี 8 เดือน และปรับ 3.33 ล้านบาท ต่อมาเบนซ์ เรซซิ่ง ได้ยื่นฎีกาเพียงคนเดียว
24 ต.ค. 2566 วันพิพากษาศาลฎีกา
เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฏีกา มีคำพิพากษาแย้งกับศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องคดีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ
ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า คดีนี้พยานโจทก์โดยรองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (รอง ผบช.ปส.) และเจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าพนักงาน ปปง. เบิกความทำนองเดียวกันว่า นายอัครกิตติ์ มีส่วนร่วมรู้เห็นและเป็นผู้สนับสนุนการค้ายาเสพติดของกลาง แต่อจำเลยคนอื่นในคดีนี้ ไม่ได้เบิกความอ้างถึงว่า นายอัครกิตติ์ ร่วมกระทำผิด หรือมีส่วนร่วมแต่อย่างใด ตามที่อัยการโจทก์ฟ้อง พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้นายอัครกิตติ์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ ฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกานายอัครกิตติ์ ฟังขึ้น พิพากษายกฟ้องข้อหานี้
ส่วนข้อหาร่วมกันฟอกเงินนั้น สิ้นสุดในชั้นศาลอุทธรณ์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พิพากษาจำคุกฐานร่วมกันฟอกเงิน รวม 3 ปี 4 เดือน ซึ่งนายอัครกิตติ์ ถูกจำคุกเกินกว่าที่ต้องรับโทษแล้ว จึงได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในวันที่ 24 ต.ค.66
ู
