เครื่องบินลำเลียง A340-500 เที่ยวบิน (RTAF229) ของกองทัพไทย ได้นำแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวน 139 คน (ชาย 136 คน หญิง 3 คน) กลับจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล โดยเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร ดอนเมืองอย่างปลอดภัย ในเวลา 12.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย ท่ามกลางบรรยากาศต้อนรับจากผู้บัญชาการทหารอากาศ กระทรวงการต่างประเทศ กระสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามแผนปฏิบัติการอพยพคนไทยในอิสราเอล ครั้งที่ 3 โดยกองทัพอากาศได้ปรับเส้นทางบินตรงสู่ Tel Aviv หลังได้รับการอนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้า
ขณะที่ระหว่างการเดินลงเครื่องบิน พบว่ามีแรงงานไทย 2 คน ก้มกราบพื้น ดีใจที่ได้กลับถึงประเทศ
นายนิทัศน์ พันธศรี ชาวจังหวัดหนองคาย ทำงานในอิสราเอล 8 ปี หนึ่งในแรงงานไทย ที่ก้มกราบพื้นเมื่อถึงประเทศไทย เปิดเผยกับทีมข่าวโมโน 29 ว่า ตนดีใจมากกลับมา สถานการณ์ที่อิสราเอลย่ำแย่ทุกวัน ต้องหลบหนีกระสุนปืน และลูกระเบิด ขอบคุณทางการไทย ขอบคุณคนไทยที่อิสราเอลที่ไม่ทอดทิ้งกัน
เช่นเดียวกับนายจรัญ ส่วนศรี ชาวจังหวัดสิงบุรี ทำงานงานในอิสราเอล 2 ปี 8 เดือน บอกว่า ตนดีใจมากที่กลับมาถึงประเทศไทย ฝากบอกคนทางบ้านด้วยว่า “ไม่ต้องห่วงแล้ว กลับถึงบ้านเราแล้ว”
สำหรับเที่ยวบินที่ 3 นี้ ถือเป็นเที่ยวบินแรก ที่ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด และเป็นเที่ยวบินแรกที่กองทัพไทยสามารถบินตรงผ่านน่านฟ้า 6 ประเทศได้ชั่วคราวโดยไม่ต้องขออนุญาต ประกอบด้วย ประเทศเมียนมา อินเดีย จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และรัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งสามารถประหยัดเวลาอพยพแรงงานไทยได้ราว 2-3 ชั่วโมงต่อเที่ยว (จากเดิมใช้เวลา 12 ชั่วโมง เหลือ 9 ชั่วโมง)
โดยพลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุว่า ขอความร่วมมือแรงงานไทยที่กลับประเทศแล้ว ช่วยให้ข้อมูลกับกระทรวงการต่างประเทศ ช่วยประสานแรงงานที่ตกค้างในพื้นที่ Red zone ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับการอพยพคนไทยในเที่ยวบินต่อไปกองทัพอากาศวางแผนนำ A340-500 จำนวน 1 เครื่อง เป็นเครื่องบินหลักในการอพยพแรงงานไทยในอิสราเอล โดยจะไปรับที่สนามบิน โดยจะใช้ชื่อปฏิบัติการฟูใจร่า 1, 2, 3 ในวันที่ 25 ตุลาคม ออกเดินทางในเวลา 02.40 น.
ทั้งนี้ตลอดการอพยพ 3 ครั้งที่ผ่านมา กองทัพไทยสามารถนำแรงานไทยกลับประเทศแล้ว จำนวน 405 คน ขณะที่เครื่องบิน A430 มีความจุ 145 คนต่อเที่ยว ส่วน C-130 (เครื่องบินตามแผนสำรอง) มีความจุ 77 คนต่อเที่ยว
