คัดลอก URL แล้ว
เบื้องหลังสุดเหลือเชื่อของ 47 Meters Down จากหนังฟอร์มเล็ก สู่หนังโรงฮิตแบบเซอร์ไพรซ์

เบื้องหลังสุดเหลือเชื่อของ 47 Meters Down จากหนังฟอร์มเล็ก สู่หนังโรงฮิตแบบเซอร์ไพรซ์

ด้วยทุนสร้างเพียง 5-6 ล้านเหรียญ แต่หนังระทึกขวัญที่เล่าเรื่อง 2 สาวพี่น้องที่ต้องผจญกับฉลามในกรงใต้น้ำเรื่องนี้  กลับทำรายได้ในสัปดาห์แรกเมื่อเปิดตัวในอเมริกากว่า 12 ล้านเหรียญ แถมในสัปดาห์ต่อมายังขยับจากอันดับ 5 ขึ้นมาในอันดับที่ 4 แถมในสัปดาห์ที่สามยังทำรายรวมตกไปเพียง 34 เปอร์เซ็นต์ ดีที่สุดในบรรดาสิบอันดับแรก รวมแล้วทำรายได้ไปกว่า 42 ล้านเหรียญ เรียกว่ากำไรจากทุนสร้างไปหลายเท่าตัวแล้ว ทั้งที่เอาเข้าจริง 47 Meters Down เป็นหนังที่สร้างโดยสตูดิโอจากอังกฤษ ที่ตอนแรกหวังเอาเข้าตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเม็นต์เท่านั้น – ซึ่งเบื้องหลังในความสำเร็จของหนังก็เป็นอะไรที่ดูน่าเหลือเชื่อมากๆ เช่นกัน

ย้อนไปปี 2016 หนัง 47 Meters Down ของ ผกก. โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ ซึ่งได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วเมื่อปี 2015 และทางค่าย Dimension Films ของ บ็อบ ไวน์สตีน ผู้จัดจำหน่ายได้วางกำหนดฉายไว้ที่ 6 ส.ค. หลังจากที่แต่เดิมค่ายตั้งใจให้หนังลงสู่ตลาดดีวีดีโดยตรง ก่อนจะเปลี่ยนใจหลังจากการฉายในรอบทดสอบภายใน หากแต่ในช่วงเวลานั้นหนังหลายเรื่องของค่ายกลับทำรายได้ไม่ดีนัก ทำให้ทางค่ายไม่มีทุนพอสำหรับการสนับสนุนประชาสัมพันธ์หนัง ทำให้ต้องเลื่อนมาในปี 2017

The Shallows

แต่ในปีเดียวกัน ความสำเร็จของหนังระทึกขวัญอย่าง The Shallows (ซึ่งแต่เดิม 47 Meters Down มีโปรแกรมฉายก่อน) กลายเป็นหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อหนังที่ลงทุน 17 ล้านเหรียญเรื่องนี้ ทำเงินไปถึง 55 ล้านเหรียญในอเมริกา (รวม 119 ล้านเหรียญทั่วโลก) ทำให้ทางค่ายเองมองเห็นความเป็นไปได้ที่หนังจะทำรายได้ หากปัญหาที่เกิดขึ้นคือ Fyzz Facility ผู้ลงทุนจากอังกฤษเจ้าของหนังไม่เชื่อมั่นในแผ่นการตลาดเดิมของทาง Dimension Films โดย เวย์น มาร์ค ก็อดฟราย ผู้ก่อตั้ง Fyzz ได้กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีปัญหากับมุมมองที่พวกเขามีต่อหนังนะ เพียงแค่คิดว่าแผนการตลาดของ Dimension ในเวลานั้น ไม่ได้ลงตัวไปตามสิ่งที่คนทำหนังคิดว่ามันควรจะเป็น” ซึ่งในเวลาต่อมามันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า โรงหนังไม่พร้อมสำหรับการฉายหนังที่คลายคลึงกันในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งทาง Fyzz ก็เลือกที่จะรอ

47 Meters Down

ซึ่งในที่สุด 47 Meters Down ก็ได้ผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ นั่นคือ Enter Entertainment Studios จากประเทศอังกฤษ ที่ก่อตั้งโดยอดีตนักเดี่ยวไมโครโฟน ไบรอน อัลเลน ที่มีจุดเด่นในการจัดจำหน่ายหนังอิสระในรูปแบบที่หลากหลายไม่ตายตัว โดยการเจรจาระหว่าง Enter Entertainment และ Dimension เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หนังแทบจะเริ่มมีการวางแผงดีวีดีไปแล้วบางที่ด้วยซ้ำ ก่อนที่ทาง Enter Entertainment จะวางกำหนดฉายในอเมริกาในเดือนมิถุนายน 2017 พร้อมกับหมายมั่นจะฉายให้ได้มากถึง 2,500 โรง (ซึ่งก็อดฟรายได้บอกว่าในส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายถึง 30 ล้านเหรียญ)

(ซ้าย) โปสเตอร์เวอร์ชั่นเดิมในชื่อ In the Deep เทียบกับเวอร์ชั่นปัจจุบัน

อีกฝั่งหนึ่ง ทางก็อดฟรายก็ต้องไปเจรจากับผู้ลงทุนและผู้ซื้อหนังไปจัดจำหน่ายในต่างประเทศให้ชะลอการนำเข้าโรงไปก่อน ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าโชคดีที่มากที่ผู้ลงทุนยอมทำตามเอาหนังเลือนไปในปีต่อมา และจุดเปลี่ยนอีกอย่างหนึ่งของหนังคือ การตัดสินใจเปลี่ยนชื่อหนังของ Enter Entertainment จากเดิมที่ปล่อยตามสื่อไปแล้วว่า In the Deep มาสู่ชื่อในปัจจุบัน (ที่เคยใช้เป็นชื่อในการถ่ายทำ) ที่หมายถึงความลึกของทะเลที่กรงซึ่งสองตัวละครสาวอยู่จมลงไป

หนึ่งปีผ่านไปด้วยความลุ้นระทึก ในที่สุดหนังก็เข้าฉาย และ 47 Meters Down ก็กลายเป็นหนังอิสระที่ฮิตในช่วงหนังซัมเมอร์ ไปจนถึงความสำเร็จในต่างประเทศ อย่างการเปิดตัวเป็นอันดับ 3 ในเกาหลีด้วยรายได้กว่า 2.2 ล้านเหรียญ ซึ่งการเลื่อนมาหนึ่งปีของหนัง ยังได้อานิสงส์จากซีรีส์ This Is Us ที่ แมนดี้ มัวร์ ร่วมแสดงซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและทำให้ชื่อเสียงของเธอเริ่มกลับมาอีกครั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

“มันยิ่งใหญ่มาก” ก็อดฟรายกล่าวถึงความสำเร็จของ 47 Meters Down “คือเราไม่ได้แกล้งทำเป็นบอกว่านี่คือหนังที่ดีที่สุดที่เราเคยทำมา แต่นี่มันเป็นซัมเมอร์ที่เร้าใจสำหรับเรามาก ทุกคนต้องการทำเงินและทุกคนชนะมัน ตอนนี้บทสนทนาก็กล่าวถึงแล้วว่าเราจะมีอะไรแบบนี้อีกไหม” ซึ่งในอนาคตทาง Enter Entertainment จะยังร่วมงานกับทาง Fyzz Facility ในหนังเรื่องต่อไปของค่ายอย่าง Three Seconds ที่นำแสดงโดย โรซามันด์ ไพค์, โจแอล คินนาแมน และ ไคลฟ์ โอเวน

ติดตามรับชม

47 Meters Down 47 ดิ่งลึกเฉียดนรก
วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม เวลา 20.50 น. ทางช่อง MONO29

และรับชมทางออนไลน์ได้ที่ : https://mono29.com/livetv

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์
: https://movie.mthai.com


Movie & Series Talk