คัดลอก URL แล้ว
“นายกฯ” ลงพื้นที่พิษณุโลก ติดตามปัญหาน้ำประปาไม่สะอาด

“นายกฯ” ลงพื้นที่พิษณุโลก ติดตามปัญหาน้ำประปาไม่สะอาด

นายกฯ และคณะ ลงพื้นที่ จ. พิษณุโลก ไหว้พระพุทธชินราช พร้อมติดตามปัญหาน้ำประปา หลังพบปัญหาน้ำไม่สะอาด-เข้าไม่ถึงหลายพื้นที่ ย้ำหากอยากให้รัฐบาลผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ให้เปล่งเสียงออกมา

วันที่ 14 ต.ค. 66 เวลา 9.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สักการะพระพุทธชินราช พระนเรศวรมหาราช และถวายสังฆทานแด่ พระสุธรรมมุนี หรือ พระสมบูรณ์ ปญฺญาวุโธ รักษาการเจ้าอาวาส เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยทันทีที่มาถึงได้มีประชาชนกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย มารอให้กำลังใจ พร้อมกับชูป้าย “เพื่อนพิษณุโลก ขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี และ ชาวพิษณุโลกสนับสนุนเงินดิจิทัล“ เป็นต้น

ก่อนจะออกเดินทางต่อไปตรวจเยี่ยมโรงผลิตน้ำประปา ณ เทศบาลนครพิษณุโลก ตำบลในเมือง อำเภอพิษณุโลก เพื่อพูดคุยปัญหาน้ำประปาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีรายงานว่าน้ำประปาไม่สะอาด และไม่เข้าถึงในบางพื้นที่ ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถใช้ในการอุปโภปและบริโภคได้

ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างรับฟังปัญหาว่า จังหวัดพิษณุโลก ถือเป็นจังหวัดแรกที่ตนเดินทางมาแล้วพบปัญหาน้ำประปาไม่สามารถอุปโภค และบริโภคได้ แม้การขนส่งน้ำจะสร้างมากว่า 80 ปีแล้ว แต่การขนส่งน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้และสาธารณูปโภคพื้นฐานได้ก็จะไม่สามารถพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองรองตามแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แต่ไม่ว่าจะทำประชามติตัดสินใจให้เทศบาลนครพิษณุโลกบริหารจัดการน้ำประปาในจังหวัดต่อ หรือ โอนถ่ายภารกิจไปยังการประปาส่วนภูมิภาคนั้น ย้ำว่าทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ชาวพิษณุโลกเดือดร้อน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวยืนยันต่อประชาชน ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกคน และพยายามที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน และตระหนักดีถึงปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว ที่ผ่านมา เราจึงพยายามลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และ พยายามผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เงินเข้ากระเป๋าของพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากประชาชนทุกคนอยากได้เงินจากโครงการนี้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567 ขอให้ทุกท่านเปล่งเสียงออกมา อย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยมาทำให้นโยบายดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ย้ำว่าอย่านิ่งเฉย หากชอบและมีความสุขก็เปล่งเสียงออกมาบ้าง รัฐบาลก็อยากได้กำลังใจด้วยเช่นกัน ก่อนทิ้งท้ายว่า การหาเสียงจบไปแล้ว วันนี้จึงอยากมาฟังเสียงของทุกคนเพื่อทำงานให้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง