วันนี้ (9 ต.ค.66) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจความพร้อมของกองทัพอากาศในการเตรียมส่งอากาศยานไปรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในตะวันออกกลาง โดยกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 และเครื่องบินลำเลียง A 340 พร้อมด้วยกำลังพลชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ MERT กองทัพอากาศ จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ ซึ่งเคยไปปฏิบัติภารกิจในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกี และการอพยพคนไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในซูดาน มาแล้ว
โดยนายสุทิน เปิดเผยว่า จากการรับทราบรายงานในห้องประชุมทราบว่ากองทัพอากาศ และกองทัพไทยมีการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลมีการพูดคุยและกำหนดแผนปฏิบัติการ ขณะกองทัพอากาศรับนโยบาย และแผนมาเพื่อที่จะเตรียมความพร้อม
ซึ่งวันนี้เห็นว่าในด้านการอพยพคนไทยกองทัพอากาศเป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องช่วยรัฐบาลวันนี้โดย เตรียมครื่องบินไว้ทั้งแอร์บัส และ C130 และนักบินผู้ปฏิบัติงานก็พร้อมนอกเหนือจากเครื่องบินแล้วเรื่องของการดูแลคนไทยในระหว่างเดินทางก็พร้อมที่จะให้การเยียวยารักษาคนไทยในระหว่างเดินทางได้โดยไม่ต้องวิตกกังวล
“ตอนนี้เหลือเพียงว่าการที่จะอพยพคนไทยโดยทางปฏิบัติต้องได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอลอนุญาต และดูแลอำนวยความสะดวกให้เราเราถึงจะไปรับคนไทยได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเป็นห่วงเพียงว่าสถานการณ์ที่มันจะนอกเหนือจากที่เราควบคุมได้ว่ามันจะรุนแรงขึ้น หรือจะลดลง
ถ้ามันรุนแรงขึ้นที่เราเป็นห่วงก็คือกลัวจำนวนคนไทย 30,000 กว่าคน ถ้าหากว่าคนไทยขอกลับหมด กองทัพอากาศซึ่งเป็นกำลังหลักอยู่แล้วก็เกรงว่าจะไม่ทันก็อาจจะต้อง ขอความร่วมมือจากการบินไทย หรือสายการบินพลเรือน ให้ช่วยหรือถ้าจำเป็นกระทรวงต่างประเทศได้คุยกับทางอิสราเอล อาจจะใช้เช่าเหมาลำบินมาก่อน”
นายสุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายสุทิน ยืนยัน ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และมีแพทย์ดูแลคนป่วย แต่ปัจจัยภายนอก ก็ต้องประเมิน แต่ยืนยันจากการประสานน่านฟ้าอิสราเอล ยังไม่ติดแต่ถ้าปิดก็มีประเทศอยู่สามสี่ประเทศที่จะใช้เป็นทางผ่านไปบินได้เช่นจอร์แดน ซาอุดิอารเบีย และไซปรัส
ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์