คัดลอก URL แล้ว
“อดิศร” เชียร์ “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งหัวหน้าเพื่อไทย เป็นคนรุ่นใหม่นำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จได้

“อดิศร” เชียร์ “อุ๊งอิ๊งค์” นั่งหัวหน้าเพื่อไทย เป็นคนรุ่นใหม่นำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จได้

นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล กล่าว ถึงการประชุมวิปรัฐบาลนัดแรกที่ผ่านมาว่าได้รับความร่วมมือจาก 11 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมเป็นอย่างดี โดยประชุมและเน้นเรื่องการทำงานประสานงานให้เกิดความราบรื่น โดยเฉพาะเรื่ององค์ประชุม แต่ละพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดสภาล่มอีกต่อไป โดยสภาผู้แทนราษฎรจะมีคณะกรรมการประสานงานร่วม โดยมีตัวแทนจากรัฐบาล 5 คน และฝ่ายค้าน 5 คน ในส่วนของรัฐบาลมีตนเป็นประธาน และมีนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส. จังหวัดเลยเป็นเลขานุการ และมีตัวแทนจาก พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่ฝ่ายค้านต้องรอให้มีผู้นำฝ่ายค้านก่อน จึงจะสามารถกำหนดสัดส่วนดังกล่าวได้ จากนั้นจึงจะมีวิปทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อหารือถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมกัน

สำหรับการทำงานของวิปรัฐบาลชุดนี้ต้องการที่จะเปิดเผยถึงการทำงานเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบอย่สงใกล้ชิด

เมื่อถามว่าจะสามารถควบคุมเรื่ององค์ประชุมได้หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า กรณีที่องค์ประชุมล่ม เพราะเป็นช่วงแรกเหมือนหมัดเมา จึงถือเป็นบทเรียน ให้กันและกัน ยืนยันว่า เป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน ที่จะต้องมาประชุมแทนพี่น้องประชาชน แต่วิธีการนับองค์ประชุม ก็เป็นอาวุธของฝ่ายค้านในการต่อสู้กับรัฐบาล แต่รัฐบาลเป็นเสียงข้างมากหากทุกคนมาเข้าประชุมจนครบองค์ประชุมก็จะไม่มีปัญหา

นายอดิศร ยังกล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในปัจจุบัน ถือว่ามีประสบการณ์โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ท่านข่วนพิจารณาว่าเมื่อไรสมควรจะใช้การนับองค์ประชุมหรือ Walk out แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องนับองค์ประชุมทุกญัตติ เพราะจะทำให้การประชุมไม่ราบรื่น ซึ่งตนก็หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย จะตั้งโดยประธานสภาฯ และจะมีการพูดคุยกันต่อไป

ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอดิศร กล่าวว่า โดยเฉพาะน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นข่าววันนี้ หากได้มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเราก็จะมีความภูมิใจเพราะเป็นคนรุ่นใหม่เชื่อว่าจะสามารถนำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จได้เพราะเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง ซึ่งโดยปกติตนก็สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ออกหน้าออกตาอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้นางสาวแพรทองทานไปนั่งเป็นรองประธานคณะกรรมการ Soft power จะพิสูจน์ว่า จะทำให้รายได้ของประชาชนครอบครัวละ 20,000 บาท ถือเป็นการเมืองอีกระดับหนึ่งของพรรคเพื่อไทย

ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลซึ่งจะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้น นายอดิศรขอไม่ออกความคิดเห็นแต่ยินดีที่จะมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นใครก็ได้ที่จะมาทำให้ทุกอย่างครบองค์ประกอบเพื่อจะขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยไปสู่ความสง่างามต่อไป และขอแสดงความยินดีล่วงหน้า ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขอยืนยันว่าเป็นน้องชายของตน แต่เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเป็นธรรมดาในการตั้งอยู่ระดับไป

ส่วนเรื่องการพิจารณากฎหมายของสภานั้นนายอดิศร ระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายใหม่เสนอมาจากรัฐบาลเนื่องจากเพิ่งทำหน้าที่ได้เพียง 1 สัปดาห์ เพียงแค่กฎหมายของพรรคการเมือง ตนจึงพยายามให้รัฐบาลรีบส่งกฎหมายที่เคยค้างการพิจารณาจากรัฐบาลก่อนมายังสภาอีกครั้ง เนื่องจากเกินระยะเวลา 60 วันจึงส่งผลให้กฎหมายถูกตีตกไป และคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ต้องเตรียมพร้อมมาตอกกระทู้สดของสภา ให้มีการมอบหมายคนอื่นมาชี้แจงแทนศักยภาพของรัฐมนตรีแสดงผ่านจากการตอบกระทู้เช่นเดียวกันและเชื่อว่ารัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมือ รวมถึงนายกรัฐมนตรีเองก็เคยพูดกับตนว่าจะมาตอบกระทู้สภาเอง กระทู้สดไม่ใช่กระทู้สดจริงๆเป็นกระทู้แช่ตู้เย็น ไม่เหมือนกับต่างประเทศที่ถามสดในสภาแต่ของเราเป็นกระทู้แช่ตู้เย็น ซึ่งตนเชื่อว่านายเศรษฐาทวีสินไม่มีปัญหาในการมาตอบกระทู้สดเพราะเป็นคนที่เร็วพอสมควร เสียอย่างเดียวที่ตนอยู่ใกล้แล้วรู้สึกปวดคอ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง