พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภรรยาของ พันตำรวจเอกวชิรา และเพื่อนตำรวจร่วมรุ่น ได้เดินทางมารับศพของ พันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ “ผู้กำกับเบิ้ม” ที่นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว หรือ “สารวัตรศิว” ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านกำนันนก ตนได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับเบิ้ม จึงทราบว่า มีอาการเครียดและพูดตัดพ้ออยู่ตลอดเวลาว่า เป็นคนที่พาสารวัตรศิวไปเจอเหตุการณ์ ดูแลน้องที่เป็นที่รักไม่ได้ รู้สึกเสียใจตลอดเวลา และอยากจะลาบวชเพื่อขออโหสิกรรม ให้กับสารวัตรศิว โดยก่อนหน้าที่ผู้กำกับเบิ้มจะปลิดชีพตัวเอง ก็มีพฤติกรรมโทรหาคนสนิทอยู่ตลอดเวลา จึงสั่งให้รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และเพื่อน นรต.รุ่น55 ให้เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนั้นถูกโซเชียลและคนรอบข้างคอยกดดันซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเกิดความเครียด รวมถึงผู้กำกับเบิ้ม มีประวัติการรักษาที่แพทย์ระบุว่าเป็นโรคเครียดมาก่อนหน้านี้ ก่อนมาทราบภายหลังว่า ผู้กำกับเบิ้มมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นเมื่อวานนี้
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ผลการชันสูตรพลิกศพและผลการพิสูจน์หลักฐานชี้ว่า เป็นการยิงตัวเองเสียชีวิต ขณะที่ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะภรรยาและลูกชายวัย 8 ขวบ ที่ต้องสูญเสียเสาหลักครอบครัวไป และไม่ติดใจสงสัยพฤติการณ์การเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงสื่อมวลชนและสังคมออนไลน์ อย่าพยายามพิพากษาใครโดยที่ไม่มีพยานหลักฐาน ซึ่งไทมไลน์ของผู้กำกับเบิ้ม มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ชัดเจน ตั้งแต่ที่โรงแรมย่านเมืองทองธานี จนกระทั่งนั่งรถแท็กซี่กลับมาบ้านพัก จังหวัดปทุมธานี และมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ซึ่งสอดคล้องตรงกับหลักฐานที่มีทั้งหมด
ส่วนประเด็นข้อสงสัยว่าเป็นการฆ่าตัดตอน เป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยจากคนที่ไม่มีความรู้ด้านสืบสวน โดยที่ไม่รอหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่องานของทีมสืบสวนสอบสวนเสียหาย จึงอยากให้สังคมจับตาไปที่คดีกำนันนก มากกว่าการมาจับผิดในการที่ตำรวจมือดีเสียชีวิต
ในส่วนของคดีหากพบตำรวจผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งขณะนี้เป็นหน้าที่ของ พลพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักผาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูเรื่องการสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการกู้เซิร์ฟเวอร์ในที่เกิดเหตุ
ส่วนประเด็นเรื่องข้อความลาตาย พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่มีข้อความดังกล่าวจริง ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ เพราะว่าช่วงหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้ควบคุมการใช้โทรศัพท์ของผู้กำกับเบิ้ม ไม่ให้เสพสื่อจนเกิดความเครียด
ส่วนกรณีที่พบว่า โทรศัพท์ของผู้กำกับเบิ้ม มีสัญญาณไปพบในบริเวณจุดอื่นๆนั้น เนื่องจากโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวอยู่กับผู้ดูแล ไม่ได้พกติดตัวไปในวันเกิดเหตุ
ขณะที่ร่างของผู้กำกับเบิ้ม ได้ถูกนำออกจากนิติเวช รพ.ภูมิพลฯ โดยมีภรรยาของ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้มารับและส่งขึ้นรถมูลนิธิร่วมกตัญญูด้วยตัวเอง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา วันนี้เวลา 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรม ศพที่วัดตรีทศเทพคืนแรกวันนี้ โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นเจ้าภาพในพิธี ก่อนที่วันพรุ่งนี้ ญาติจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดใหญ่ท่าเสา จ.อุตรดิตถ์ โดยจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน เวลา 15.00 น.