ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการสืบสวนหาเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ
1.นายณัฐพงศ์ฯ อายุ 27 ปี
2.นายภัทรพลฯ อายุ 19 ปี
3.นายเต่า (ไม่มีนามสกุล) อายุ 26 ปี
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ” พร้อมตรวจยึดของของกลาง 6 รายการ สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ 12 เล่ม , เครื่องคิดเลข 3 เครื่อง , อุปกรณ์เครื่องเขียนสำหรับจดรายชื่อลูกค้า 3 ชุด , สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม , โทรศัพท์มือถือที่เบอร์ตรงกับนามบัตร 3 เครื่อง , นามบัตรปล่อยเงินกู้จำนวน 91,000 ใบ สถานที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
สืบเนื่องจาก ศปน.ตร.1599 ได้รับเรื่องร้องเรียน ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มีกลุ่มวัยรุ่นโปรยนามบัตรเงินกู้ตามหน้าบ้านของประชาชน สวนสาธารณะ ริมถนนและสถานที่ต่าง ๆ ภายในตัวเมืองพิษณุโลก เพื่อโฆษณาให้มากู้เงินกับตน สร้างความสกปรกและความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาต้นตอของนามบัตรปล่อยเงินกู้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มวัยรุ่น เป็นชาย จำนวน 3 คน ได้มาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และใช้เป็นสถานที่เก็บนามบัตรปล่อยเงินกู้ใช้ชื่อว่า “รับปรึกษา เงินทุน” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอศาลออกหมายค้น
หลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบบุคคลและของกลางเป็นนามบัตรปล่อยเงินกู้ จำนวน กว่า 100,000 ใบ จึงตรวจยึด พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การว่า นายณัฐพงศ์ ฯ เป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนนายภัทรพลฯ และ นายเต่า ฯ เป็นลูกน้อง ทั้งหมดเริ่มมาปล่อยเงินกู้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา และได้นำเงินมาลงทุนจำนวน 300,000 บาท โดยเงินบางส่วนไปสั่งทำนามบัตรปล่อยเงินกู้ ในชื่อ “รับปรึกษา เงินทุน” และจะระบุหมายเลขโทรศัพท์ของแต่ละคนลงไปในนามบัตรดังกล่าว
จากนั้นนายณัฐพงศ์ฯ กับพวก จะขับขี่รถจักรยานยนต์นำนามบัตรไปโปรยตามหน้าบ้านของประชาชน และสถานที่ต่าง ๆ ภายในตัวเมืองพิษณุโลก เมื่อมีประชาชนสนใจโทรติดต่อมาเพื่อขอกู้เงิน กลุ่มดังกล่าวก็จะได้ไปประเมินศักยภาพในการชำระหนี้เงินกู้ เมื่อผ่านการประเมินก็ขอเอกสารจากผู้กู้ เป็นสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จากนั้นจะโอนเงินให้แก่ผู้กู้ในทันที และจะเรียกเก็บดอกเบี้ยผ่านการโอนเงินจากบัญชีเท่านั้น เรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 341.4 ต่อปี เมื่อได้รับการชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย กลุ่มดังกล่าวก็จะรวบรวมเงินให้ นายณัฐพงศ์ ฯ หัวหน้าทีม บริหารจัดการเงินและนำเงินบางส่วนมาปล่อยเงินกู้ต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) เตือนภัย ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ต้องการกู้ยืมเงิน ควรกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อโอนเงินไปให้ผู้ใดเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมเงินก่อนเป็นเด็ดขาด ทั้งนี้สามารถตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อภายใต้กำกับ ได้ที่ช่องทาง ดังนี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php