ภายหลังจากที่มีการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีที่บำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะของญี่ปุ่นลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้สินค้าอาหารทะเลของญี่ปุ่น ถูกระงับการนำเข้า หรือมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในหลายประเทศ เช่น จีนที่ประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมด หรือ ฮ่องกง ที่กำหนดห้ามนำเข้าอาหารทะเลยจากในพื้นที่ 10 จังหวัดของญี่ปุ่น
สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้สินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ เนื่องจากจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ในการส่งออกสินค้าอาหารทะเลของญี่ปุ่น ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นจำเป็นต้องตอบสนองต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมของประมงในประเทศ
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกฯ ของญี่ปุ่นระบุว่า ได้มีการหารือในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ โดยรัฐบาลได้เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่ธุรกิจประมง และอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยเตรียมจัดสรรเงินงบประมาณฉุกเฉินมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านเยน เพื่ออุดหนุนให้แก่อุตสาหกรรมทางทะเลของญี่ปุ่น
โดยนายคิชิดะ ได้กล่าวยืนยันว่า “เราจะทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นให้ได้”
ซึ่งงบประมาณนี้ จะถูกใช้ในการจัดหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางทะเลของญี่ปุ่น ทดแทนตลาดจีนที่ไม่สามารถส่งออกได้ รวมถึงการขยายการบริโภคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น สำหรับตลาดใหม่ ๆ ที่ญี่ปุ่นตั้งเป้าไว้เช่น ไต้หวัน สหรัฐฯ ชาติในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์
เรียกร้องจีน ยกเลิกระงับนำเข้า
ในขณะที่เดียวกัน ทางด้านของรัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกร้องและขอให้มีการเปิดการหารือระหว่างญี่ปุ่นและจีน ในเรื่องของการระงับการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาทางออกร่วมกัน
โดยในวันนี้ นายวาตานาเบะ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูภัยพิบัติของญี่ปุ่น ได้ตรวจเยี่ยมตลาดค้าปลาในกรุงโตเกียว พร้อมทั้งได้ชิมซาซิมิ และซูชิ จากปลาที่จับมาจากทะเลในพื้นที่จังหวัดฟุกุชิมะด้วย เพื่อยืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัย ภายหลังจากการมีการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนที่ได้รับการบำบัดแล้ว พร้อมทั้งย้ำว่า อาหารทะเลจากในพื้นที่ดังกล่าว มีความปลอดภัย
ที่มา
- https://www3.nhk.or.jp/news/html/20230905/k10014184131000.html
- https://www3.nhk.or.jp/news/html/20230905/k10014183981000.html