วันนี้ (23 ส.ค.66) โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา แพทย์ของทางราชทัณฑ์ ได้ตรวจอาการของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร พบว่ามีอาการป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางแพทย์ของราชทัณฑ์ขาดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และไม่มีเครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องส่งมารักษาตัวฉุกเฉินที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงประมาณ ตี 1 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้การส่งตัวผู้ป่วยจากเรือนจำมารักษาที่ รพ.ตำรวจ เป็นเรื่องปกติที่ได้ทำมาตลอด โดยมี MOU ระหว่าง ราชทัณฑ์และ ตร. ตั้งแต่ 1 พ.ค.63 เพราะโรงพยาบาลมีความเหมาะสม ทั้งในด้าน ศักยภาพการแพทย์ และมีเจ้าหน้าที่สนับสนุนราชทัณฑ์ในการ เฝ้าระวัง การรักษาความปลอดภัย
ด้านนายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าเมื่อเวลา 23.59 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม พัศดีเวรได้รายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค มีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วยโดยแพทย์จากโรงพยาบาลต่างประเทศ (สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง พังผืดในปอด กระดูกสันหลังเสื่อม
โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือโรคหัวใจเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตจะมีการส่งตัวรักษาให้ทันท่วงที