นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้รับมอบหมายจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ให้กำหนดแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทุนทางวัฒนธรรม และส่งเสริม Soft Power ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมไปยังตลาดต่างประเทศ ให้เข้าถึงง่าย ครอบคลุมตลาดผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมการผลิตในรูปแบบที่หลากหลาย และออกแบบช่องทางสร้างการรับรู้ที่เหมาะสม โดยจัดทำแผนการดำเนินงานขับเคลื่อน Soft Power อย่างเป็นระบบ วธ. จึงริเริ่มจัดทำแผนการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย (พ.ศ. 2566-2570) ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนดังกล่าว เพื่อให้ประเทศไทยมีแผนแกนกลางขับเคลื่อน Soft Power สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสามารถนำไปใช้ดำเนินงานตามภารกิจของตนเอง รวมทั้งใช้เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อนและบูรณาการและเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ตลอดจนกำหนดเป้าหมายและจุดยืนในเวทีระหว่างประเทศของไทย และสร้างแบรนด์ประเทศไทย (Nation Branding) เพื่อวางรากฐานการขับเคลื่อน Soft Power ที่เชื่อมโยงและครอบคลุมองค์ประกอบอื่น ๆ อาทิ สื่อ อุตสาหกรรมบันเทิงและคอนเทนต์ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การเมืองระหว่างประเทศ การค้าและการลงทุน ให้มีเอกภาพภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมของประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า แผนนี้เป็นแผนยุทธศาสตร์หลักเพื่อใช้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติทางวัฒนธรรม ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยมีทิศทางในการดำเนินงานร่วมกัน สามารถเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างกัน รวมถึงขับเคลื่อน Soft Power อย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ เห็นผลเป็นรูปธรรม และผลักดันให้การขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติทางวัฒนธรรม เป็นวาระสำคัญของประเทศ และเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม ให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน มีเอกลักษณ์ จุดยืน และบทบาทที่โดดเด่นในเวทีโลก และเป็นประเทศที่สามารถใช้ประโยชน์จากทุนทางวัฒนธรรม สร้างความชื่นชอบและชื่นชมของผู้คนทั่วโลก รวมทั้งผลักดันให้การดำเนินงานที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทย ได้รับการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอและเหมาะสมเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนแผนนี้ดำเนินการภายใต้โมเดล “Soft Power for All: THAIS” หรือ “Soft Power เพื่อคนไทยและผู้คนทั้งมวล” โดยใช้ “มาลัย” เป็นสัญลักษณ์ สื่อถึงการร้อยเรียงดอกไม้ที่หาได้ในท้องถิ่นของไทยให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมูลค่าสูง สำหรับมอบให้ผู้อื่นเพื่อแสดงความปรารถนาดี การต้อนรับขับสู้ ความเป็นมิตร และการแสดงความเคารพ โดยมีนัยถึงการใช้มรดกทางวัฒนธรรม ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าทางสังคมให้กับประเทศไทยและประชาคมโลก เปรียบได้กับตัวมาลัยที่ประกอบด้วยการร้อยดอกไม้ 3 ส่วนเรียงต่อกันเป็นวงกลม โดยส่วนที่ 1 เป็นการขับเคลื่อน Soft Power ด้วยทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ วัฒนธรรมดั้งเดิม (T-Traditional Culture) และวัฒนธรรมร่วมสมัย (H-Hip Culture) ส่วนที่ 2 หมายถึง การต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่ม (A-Add Value) และส่วนที่ 3 หมายถึง การโน้มน้าวหรือชักจูงให้เกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการทางวัฒนธรรม (I-Influence) รวมเป็นคำว่า“THAI” ส่วนอุบะ 3 เส้น หมายถึงผลประโยชน์ต่อประทศไทย 3 ด้าน (3S) ที่มาจากการดำเนินงานขับเคลื่อนส่งเสริม Soft Power ประกอบด้วย เศรษฐกิจเติบโต (Scaling Economy) สังคมยั่งยืน (Sustainable Society) และเสริมสร้างภาพลักษณ์และจุดยืนของไทยในเวทีโลก (Strengthening Position)