คัดลอก URL แล้ว
โฆษกปชป. ยัน ยังไม่คุยตั้งรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” ต้องรอมติพรรค

โฆษกปชป. ยัน ยังไม่คุยตั้งรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” ต้องรอมติพรรค

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 5 สิงหาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. แถลงข่าวกรณีสมาชิกพรรค ปชป. มีการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอต่อ สคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ทั้ง 25 คนของพรรค เพื่อคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ยืนยันว่าพรรค ปชป. พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคและประชาชน ไม่ว่าจะสื่อสารมาทางช่องทางใดก็ตาม ในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เราพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนทุกเสียงเพื่อนํามาประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรค

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการพูดคุย เรื่องจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พท. นายราเมศ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นโฆษกพรรค การดำเนินการในนามพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่มีการมอบหมายบุคคลใดให้ไปเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ในฐานะที่เราเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่มีใครคนใดคนนึงไปตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะหากจะร่วม คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องมีการเรียกประชุมเพื่อกำหนดท่าที จากนั้นจึงค่อยมอบหมายบุคคลให้เป็นพูดคุย จากนั้นกรรมการบริหารพรรคจะนำผลการพูดคุยมาประชุมกับ ส.ส.ทั้ง 25 คนของพรรค ว่าจะมีมติให้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวว่าพรรคมีการตอดต่อกับพรรค พท.แล้ว ยืนยันว่าไม่มี ทั้งนี้ สมาชิกที่มีความเห็นแตกต่างกัน หรือมีความเห็นไปในทิศทางใด เป็นความเห็นส่วนตัว ใครจะมีการไปพูดคุยติดต่อกับใครในการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่มติพรรค ความชัดเจนที่สุดคือต้องรอมติที่ประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรค ปชป.ร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. จะเจอวิกฤตศรัทธาหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ตนตอบเรื่องของอนาคตไม่ได้ เพราะต้องมีความชัดเจนก่อนว่าใครจะเป็นรัฐบาล หรือใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่อุดมการณ์ของแต่ละพรรคชัดเจน การต่อสู้ทางการเมืองที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่าแต่ละพรรคมีอุดมการณ์อย่างไรบ้าง ซึ่งย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว พรรคบางพรรคอาจไม่ใยดีกับหลายเรื่อง แต่หากมีการตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่ง ก็ต้องมีการประชุมร่วมกัน ด้วยความเป็นสถาบันทางการเมือง ตนไม่มีความกังวล เรายอมรับว่าแพ้การเลือกตั้งรอบนี้ แต่การยอมรับผลเลือกตั้ง ก็จะต้องมีวิธีการที่จะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้พรรคมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพรรคต่อพรรค การตรวจสอบการทุจริตโครงการต่างๆ ก็จะเป็นผลประกอบการพิจารณาของสมาชิกพรรค ว่าจะไปร่วมกับพรรคการเมืองใด ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคหรือไม่

เมื่อถามยํ้าว่า หากร่วมกับพรรค พท.ก็สามารถชี้แจงได้ใช่หรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ตนเป็นเพียงกรรมการบริหารพรรค 1 เสียง จึงไม่สามารถตอบในเรื่องของการร่วมรัฐบาลได้ ต้องมีข้อยุติเป็นมติพรรคก่อน และเมื่อมติพรรคเป็นอย่างไร เชื่อว่าทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง