นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาวันนี้ที่มีมติไม่เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตนายกฯ ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ในสมัยประชุมเดียวกัน ว่า
ตนก็นั่งดูการประชุมอยู่ตลอด นั่งดูและฟัง ก็ขอเอาใจช่วยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เพราะต้องใช้เวลากันอีกเยอะ ตนออกมาจากที่ประชุมเฉพาะเข้าห้องน้ำเท่านั้น ส่วนการประชุมโหวตนายกฯ รอบหน้าจะจบลงด้วยดีหรือไม่นั้น สำหรับการวินิจฉัยการเสนอชื่อนายกฯ คนเดิมก็ถือว่ามติวันนี้ก็ถือว่าทำให้จบลงแล้ว แต่ว่าสัปดาห์หน้าประธานสภาได้นัดประชุมวันไหนตนยังไม่ทราบ
ซึ่งการประชุมวันนี้ก็มีการประท้วงและอภิปรายค่อนข้างยืดยาวหน่อย ตนมองว่าประธานก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว แต่ว่าความคิดความเห็นก็แตกต่างกัน มันเลยทำให้มีประเด็นที่ต่างคนก็ต่างพยายามแสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่าเห็นภาพการประท้วงและอภิปรายยืดยาวในวันนี้ คิดถึงภาพที่ตัวเองเป็นประธานรัฐสภาอย่างไร นายชวน กล่าวว่า ตนมองย้อนกลับไปแล้วก็คิดว่าเห็นใจประธานสภา เพราะว่าคนทั้ง 750 ก็คุมได้ไม่ง่ายนัก แต่ประเด็นบางเรื่องคงต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย ตนก็ทราบว่าฝ่ายกฎหมายเขาก็มีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งก็สามารถตีความได้ทั้ง 2 ทางพอ ซึ่งก็แล้วแต่ เนื่องจากวันนี้มติออกมาแล้วก็ทำให้ประเด็นนี้จบไป โดยไปยึดในข้อบังคับที่ 41 อีกฝ่ายหนึ่งเขาก็มีเหตุผลว่ารัฐธรรมนูญอยู่เหนือข้อบังคับ ทุกฝ่ายก็มีสิทธิ์ที่จะคิดได้
เมื่อถามว่าหลายคนก็สะท้อนว่าประธานรัฐสภา ก็มีสิทธิ์และอำนาจในการวินิจฉัยชี้ขาด นายชวน กล่าวว่า มันก็แล้วแต่ดุลยพินิจ ตนคิดว่าประธานรัฐสภาก็พยายามยึดข้อบังคับและข้อกฎหมายอย่างที่ท่านให้ความเห็นตนก็ฟังอยู่ ท่านก็ให้ความเห็นไว้ตั้งแต่ต้นว่ามีบางฝ่ายให้ความเห็นกับท่านว่าหมวดว่าด้วยการเลือกนายกฯ กำหนดไว้เป็นพิเศษ ซึ่งไม่ได้อยู่ในหมวดข้อบังคับที่ 41 แสดงให้เห็นว่าความเห็นที่ให้กับประธานก็มีอย่างหลากหลาย อย่างไรก็ตามการตัดสินใจท่านก็อยากให้สภาเป็นผู้ตัดสิน
เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะโหวตลงและจะยาวนานขนาดไหน นายชวน กล่าวว่า ต้องไปถามกับท่านประธาน แต่ก็ต้องดูว่าสัปดาห์หน้าจะมีอะไร และจะนัดประชุมเรื่องอะไร
