เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า หากเราต้องการไปเที่ยวสักที่ไหนสักที่บนโลก สิ่งแรกที่เราจะทำ คือ ‘การค้นหาข้อมูล’ ทุกอย่างของสถานที่นั้นในออนไลน์ และแน่นอนว่า Agoda แพลตฟอร์มบุ๊คกิ้งที่พักอันดับต้นๆของเอเชีย ก็เข้าใจเรื่องนี้ซึ่งกลายเป็นพฤติกรรมปกติของผู้บริโภคที่ชอบท่องเที่ยวในปัจจุบันเป็นอย่างดี
แต่คำถามคือ..ถ้าเราต้องการให้แพลตฟอร์มของเราอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคต ที่ผู้บริโภคจะมีความรอยัลตี้ในแบรนด์ของเรา เลือกที่จะใช้บริการแพลตฟอร์มของเราก่อนเสมอ เรามีอะไรที่เป็นหลักยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างฐานความมั่นคงนี้
คุณ Omri Morgenshtern, Chief Executive Officer, Agoda ได้โชว์วิสัยทัศน์ บนเวทีปาฐกถาพิเศษ The future of travel and innovation ภายในงาน SITE2023 – Innovation Partnership Together we grow “ร่วมสร้างหุ้นส่วนนวัตกรรม” ถึงปัจจัยสำคัญที่ Agoda คำนึงถึงเสมอในการนำมาวางแผนยุทธศาสตร์
1.PRICE – ไม่มีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าเท่ากับ ‘ราคา’ แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวอย่าง Agoda เท่านั้น แต่การทำธุรกิจทางนวัตกรรมอื่นๆก็เช่นกัน หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ คุณต้องทำการบ้านเรื่อง ‘ราคา’ เป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกคุณก่อน
2.TECH – ถ้าหากคุณมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดอยู่ในมือแล้ว อย่าหยุดที่จะพัฒนามัน เพราะถ้าหากคุณยิ่งพัฒนาลูกค้าจะยิ่งเห็นความเติบโตของบริษัท และพวกเขาจะยิ่งมั่นใจในบริการมากขึ้นอีก ว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากคุณ เทคโนโลยีในตอนนี้คือสิ่งที่แสดงภาพลักษณ์ของบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุด
3.LOCALIZATION – ต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ มีความชอบ มีวัฒนธรรม มีความต้องการไม่เหมือนกัน
เราไม่สามารถใช้บรรทัดฐานเดียวในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจได้ในทุกพื้นที่ ยิ่งเราลงลึกในแต่ละพื้นที่มากเท่าไหร่ บริการของเราจะยิ่งสร้างความพอใจให้ทั้งฝั่งลูกค้าและพันธมิตรที่เราพาพวกเขามาเจอกัน นั่นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์รอยัลตี้
ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา คนทั่วไปอาจจะมองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สิ่งที่ Agoda ได้เรียนรู้ คือ โอกาสที่จะพลิกเกม เมื่อสถานการณ์กลับมาเอื้อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวมากขึ้นอีกครั้ง
มีคนจำนวนมากที่ไม่เคยใช้อินเตอร์เน็ตมาก่อนในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด แต่ตอนนี้พวกเขาหันมาใช้แพลตฟอร์มของ Agoda ในการหาที่พัก ซึ่งทำให้ในยอดการจองผ่าน Agoda ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพียงแค่ประเทศไทยที่เดียว ก็มียอดการจองที่พักต่อวันที่มากกว่าจำนวนที่นั่งในสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ถึงสองสนามแล้ว
แน่นอนว่า Agoda จะนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้นกว่านี้ โดยในปี 2030 Agoda วางแผนที่จะใช้ทั้ง Crypto ในการชำระค่าบริการแทนเงินสด, ใช้ AR/VR ในเมตาเวิร์ส เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบไฮบริด, AGI เป็นอินเตอร์เฟซใหม่ๆ สร้างผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อให้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจมากขึ้น และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ที่ Agoda ตั้งใจจะพัฒนา เพื่อมุ่งสู่แพลตฟอร์มที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้กับทุกคน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในงานเท่านั้น ซึ่งงาน SITE2023 จัดขึ้น จนถึงวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ณ ห้องบอลรูม 1-4 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
