นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ชี้แจงกรณี นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้ลงนามในหนังสือ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 แจ้งให้นายฮากิม พงติกอพ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม และนายยามารุดดิน ทรงศิริ พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเป็นธรรม ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นธรรมพิเศษครั้งที่1/2566 คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ทั้งสองคนพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
นายกัณวีร์ ยืนยันว่า ตนเองงดออกเสียง ในการลงมติครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องภายในคณะกรรมการบริหารพรรคที่มีมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ ที่พิจารณาไปตามข้อบังคับพรรคซึ่งในส่วนของนายฮากิม ที่ไปเข้าร่วมเวทีเสวนาในการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่ จ.ปัตตานี ทางพรรคไม่ได้รับทราบ เพราะไม่มีหนังสือเชิญมาถึงหัวหน้าพรรค และนายฮากิมยืนยันแล้วว่าไปในนามส่วนตัว แต่เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่พรรคเป็นธรรม
โดยนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค ได้แสดงจุดยืนไปแล้วว่า เคารพการแสดงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกแต่ไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน ที่ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการบริหารพรรคจึงจำเป็นต้องมีมติที่ชัดเจนว่าไม่สนับสนุนกิจกรรมที่อาจละเมิดรัฐธรรมนูญได้ในส่วนนายยามารุดดิน ทรงศิริ ที่คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติให้พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรค ก็เป็นเหตุผลภายในที่มีพฤติกรรมขัดกับข้อบังคับพรรค ซึ่งตนเองก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
นายกัณวีร์ ยังเปิดเผยถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติที่มีการทำแบบสอบถามประชามติแบ่งแยกดินแดนที่ จ.ปัตตานี โดยยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดเวทีดังกล่าว
นายกัณวีร์ เปิดเผยด้วยว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินคดีกับเยาวชนนักศึกษาที่ทำกิจกรรมนี้ โดยไม่มีการรับฟังข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพราะจากที่ฟังการชี้แจงของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ยืนยันว่า ไม่ได้จัดทำประชามติแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นการทำแบบสอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่หากจะให้จัดทำประชามติเพื่อกำหนดชะตากรรมตนเอง ซึ่งหลักการ Right to Self-Determination หรือ RSD เป็นสิ่งที่ยังต้องเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุยในพื้นที่สาธารณะอีกมาก เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องนำมาหารือในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ
“จากที่ผมติดตามสถานการณ์มาช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไม่อยากคิดว่ามีการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อหวังล้มพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะจากการชี้แจงของผู้เข้าร่วมงานทั้ง นายวราวิทย์ บารู ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี พรรคประชาชาติ และนายฮากิม พงติกอ อดีตรองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม รวมถึงน้องๆนักศึกษา
ก็ยืนยันว่าเชิญตัวแทนพรรคการเมืองไปร่วมเพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นเรื่องการกำหนดชะตากรรมตนเองด้วย ซึ่งในเวทีเสวนาวันนั้น ยังมีนายอาเต็บ โซะโก ประธาน The Patani มาร่วมด้วย แต่ทำไมถึงมีการพุ่งเป้ามาที่ผมและพรรคเป็นธรรม ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เข้าไปร่วมเวทีนี้แต่อย่างใด”
นายกัณวีร์กล่าว
นายกัณวีร์ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เข้าร่วมงานนี้ แต่ทำไมถึงถูกเชื่อมโยงเพื่อหาทางจะยุบพรรคเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นเพราะนโยบายสันติภาพปาตานี อาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางความมั่นคง ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่าการสร้างความเข้าใจกับสังคมถึงคำว่า “ปาตานี” เป็นการสร้างการรับรู้ว่า ปาตานี ไม่ใช่คำที่หมิ่นเหม่กับความมั่นคงที่จะหมายถึงการแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ตัวตน ที่เป็นความภาคภูมิใจของประชาชน และเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการแสดงความจริงใจต่อกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน
“ผมยังยืนยันที่จะผลักดันนโยบายยกระดับกระบวนการสร้างสันติภาพปาตานีเข้าสู่รัฐสภา เพราะจะเป็นทางออกทางการเมืองที่ดีที่สุด และพร้อมพิสูจน์ความตั้งใจนี้ต่อไป”
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ