ร้านอาหาร Hello Kitty
เราสามารถพบตัวการ์ตูน Hello Kitty ได้ในการแข่งขันกีฬาเบสบอล บนเครื่องบิน ในที่นั่งในห้องน้ำ บนหูฟัง หรือแม้กระทั่งในพาสต้า และในแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลไม่ว่าเราจะไปที่ใด เราก็จะพบเห็นเฮลโลคิตตี้อยู่ที่นั่น ทั้งในขบวนพาเหรดในมหานครนิวยอร์ก การประชุมคิตตี้ในนครลอสแองเจลลิส หรือแม้กระทั่งการประชุมระหว่างผู้นำประเทศ
โซเฟีย ยาน ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุว่านี่คือปรากฎการณ์ที่แสดงถึงความนิยม Hello Kitty ล่าสุดคือร้านอาหาร Hello Kitty ร้านแรกของโลก ในแต่ละวันผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะต่อยืนรอต่อแถวเพื่อรอชิมอาหารจากร้านนี้ โดยบริษัทที่ผลิตสินค้า Hello Kitty สามารถทำเงินจากตัวการ์ตูนน่ารักนี้ได้ปีละประมาณ 221,000 พันล้านบาท ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับบริษัทซานริโอ้ที่ฟื้นฟู Hello Kitty ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ซานริโอ้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งชื่อและหน้าตาของ Hello Kitty และยังคงเฝ้าดูการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวกับตัวการ์ตูนนี้อย่างใกล้ชิด
ม่าน กว่อง (Man Kwong) เจ้าของร้านอาหาร Hello Kitty บอกว่าซานริโอ้มีมาตรฐานที่สูงซึ่งนั่นทำเขาได้เรียนรู้หลายอย่างจากทางบริษัทและในช่วงแรกของการเริ่มทำร้านเป็นช่วงที่ยากลำบากและต้องใช้กระบวนการที่ยาวนาน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้รับการปรับปรุงโดยบริษัทซานริโอ้ ตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ ไปจนถึงเมนูอาหาร และจาน การใช้แสงไฟที่เหมาะสม กระจก และภาพวาดโบราณแบบจีนที่มีตุ๊กตาเฮลโลคิตตี้ รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดอื่นๆที่สร้างความยุ่งยากให้กับเชฟที่ร้าน เช่น ทางร้านต้องใช้ขนมปังของ Hello Kitty
ม่าน กวง เจ้าของร้านอาหาร Hello Kitty บอกว่าทางร้านต้องเพิ่มขั้นตอนการทำงานจากเดิม 17 ขั้นตอน ขณะเดียวกันการทำขนมปังคิตตี้นั้นต้องเสียเวลามากกว่าการทำขนมปังธรรมดาถึง 3 เท่ามากกว่า 40 ปีแล้ว ที่ Hello Kitty เป็นที่รู้จักของคนกว่า 2 ชั่วอายุคนและนี่ยังเป็นการบ่งบอกอายุของคนจากยุคสมัยที่เติบโตมาได้ด้วยเช่นกัน
ยูโกะ ยามากุชิ ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ Hello Kitty ระบุว่ากลุ่มแฟนคลับดั้งเดิมของ Hello Kitty คือเด็กที่เกิดในยุค 1980 ซึ่งขณะนี้พวกเขาอยู่ในวัย 40 ปี ซึ่งเธอพยายามที่จะเรียนรู้ว่าคนกลุ่มนี้ชอบอะไร ยามากุชิ บอกว่าเธอพยายามที่จะทำให้เฮลโหลคิตตี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบรรดาแฟนคลับที่พวกเขาจะไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีเจ้าตัวการ์ตูนตัวนี้ ดังนั้นทางบริษัทซานริโอ้ผู้ผลิตคิตตี้จึงพยายามที่จะจูงใจให้หญิงสูงวัยส่งผ่านความชื่นชอบในตัวเฮลโหลคิตตี้นี้ไปสู่ลูกสาวของพวกเธอ และนั่นก็ได้ผลลูกค้าร้านอาหาร Hello Kitty คนหนึ่งบอกว่าเธอคิดว่าการ์ตูนตัวนี้น่ารักมากแม่ของเธอซื้อหนังสือ Hello Kitty ให้กับเธอเพราะแม่คิดว่ามันน่ารัก แฟนคลับหน้าใหม่ต่างพากันมาลิ้มลองรสชาติอาหารที่ทำขึ้นอย่างพิถีพิถันนี้ในร้านแห่งนี้และบริษัทซานริโอ้หวังว่าปรากฎการณ์นี้จะเป็นไปในระยะยาว