นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม ด้านเด็กและเยาวชน สำหรับ 9 บุคคลต้นแบบทำความดีเพื่อสังคม เป็นภาคีเครือข่ายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคล องค์กร ภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้วยความเสียสละ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือและพัฒนาประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยมีนางเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวต้อนรับ ทั้งนี้ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ร่วมแสดงความยินดี และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) มีภารกิจสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนอย่างมีคุณภาพ อันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป โดยได้กำหนดนโยบาย มาตรการ กลไก ส่งเสริมสนับสนุนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต อีกทั้งได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคคล องค์กร ภาคีเครือข่ายที่ทำงานเป็นผู้เสียสละเพื่อสังคม มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติภาคีเครือข่ายของกระทรวง พม. ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนและสังคม จึงได้จัดโครงการมอบรางวัล “ผู้เสียสละเพื่อสังคม” ด้านเด็กและเยาวชน
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ผู้เสียสละเพื่อสังคม ด้านเด็กและเยาวชน จำนวน 9 ราย ที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. พระอาจารย์ปิยะศักดิ์ ปิยะธัมโม (จำปาหอม) ผู้มอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน และก่อตั้งเครือข่ายความดี โดยมีเด็กที่ได้รับทุนการศึกษาจนกระทั่งจบระดับปริญญา และมีงานทำในหลากหลายอาชีพ สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ 2. คุณดำรง พุฒตาล ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการหนังสือนิตยสาร คู่สร้างคู่สม ผู้ทำหน้าที่สร้างความรัก สานสัมพันธ์ในครอบครัว และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ นับเป็นต้นแบบของสื่อมวลชนที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด อีกทั้งเป็นผู้แสดงให้เห็นว่าสื่อที่ดีคือกระจกสะท้อนสังคมที่ดีได้ 3. รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่น โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการตอบคำถามและให้ความรู้ความเข้าใจในปัญหาเด็กและวัยรุ่นผ่านสื่อต่างๆ 4. คุณภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมสนับสนุนงานกระทรวง พม. 5. คุณวาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ผู้ให้ความช่วยเหลือเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงและถูกแสวงหาประโยชน์ เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำแก่บุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้งคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิเด็กที่ประสบปัญหาทั้งเด็กไทยและเด็กต่างชาติ มาเป็นระยะเวลากว่า 32 ปี 6. คุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก เป็นภาคีเครือข่ายที่สำคัญของกระทรวง พม. มาตลอด 15 ปี ซึ่งเป็น Reading Hero อ่าน ท่อง ร้องเล่า ในสถานสงเคราะห์เด็ก เยาวชน คนพิการ และผู้สูงอายุ 26 แห่งใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ 7. คุณชลิต นาคพะวัน ศิลปิน 24 ชั่วโมง ผู้ใช้ “ศิลปะ” สร้างโลกให้น่าอยู่ เป็นทั้งศิลปิน นักแสดง ครู นักออกแบบ นักเขียน ครูสอนศิลปะเด็ก ครูสอนคนตาบอดวาดรูป ด้วยการใช้ศิลปะบำบัดจิตใจ คนสร้างเมืองให้มีสีสัน และนำศิลปะไทยไปสู่สายตาของชาวโลก 8. คุณ เจนนิเฟอร์ นินนาท สาวไทยวัย 17 ปี ผู้รับหน้าที่ร้องเพลงชาติไทยบนเวทีมวย ในรายการ เดอะ รีเจนท์ มวยไทย 2023 ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา สามารถสร้างความภูมิใจให้กับคนไทยและทำให้รู้ว่าคนไทย รักชาติ รักแผ่นดินไทยมีอยู่ทั่วโลก และ 9. คุณเมธวัชร์ (เทวัญ) ทรัพย์แสนยากร นักแซกโซโฟนระดับตำนาน โดยร่วมมือกับกระทรวง พม. สอนแซ็กโซโฟน สร้างอาชีพ และเปิดหลักสูตรเทวัญสอนแซ็ก 1 ให้กับเด็กในมูลนิธิบ้านพระพร
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษที่มีการแข่งขันสูง ฉะนั้นทรัพยากรที่มีอยู่และมีคุณค่าที่สุดคือเด็กและเยาวชนอันเป็นลูกหลานเรา ซึ่งต้องปลูกฝังความคิดจริยธรรมคุณธรรมที่ดี ต้องพัฒนาทุนมนุษย์ด้วยจริยธรรมคุณธรรมที่ดี และการผ่านวัฒนธรรมคุณธรรมข้ามรุ่น เป็นสิ่งที่ทำให้สังคมไทยยั่งยืนและมั่นคงตลอดมา กระทรวง พม. โดย ดย. ได้ตระหนักและร่วมกับภาคีเครือข่าย ช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีของความเป็นคนไทยให้ยั่งยืน และปลูกฝังจริยธรรมคุณธรรมข้ามรุ่นต่อไป โดยผู้รับรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคมในวันนี้ หลายท่านเป็นผู้ที่ทำงานเพื่อเด็กและเยาวชน โดยปิดทองหลังพระ และทำความดีมานาน ไม่เคยหวังรางวัลใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นผู้ที่สร้างความมั่นคงของครอบครัวและชีวิต ซึ่งเป็นผู้ให้ รวมทั้งเป็นผู้ที่ทำมากกว่าพูด และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และสังคมได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ อยากให้คนไทยได้เห็นตัวอย่างที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยรุ่นหลังว่าประเทศไทยจะไม่สิ้นคนดี ซึ่งทุกท่านที่ได้รับรางวัลนี้ คือแสงเทียนของสังคมไทย อย่าหยุด อย่าท้อ อย่าเหนื่อย เพราะสังคมต้องการตัวอย่างที่ดีมากกว่าคำพูด ซึ่งขอให้ท่านทำดีให้เห็น เป็นคนดีให้ดูและทำต่อไป