คัดลอก URL แล้ว
รวบหัวหน้าฝ่ายรายได้สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับสินบน เลี่ยงจ่ายภาษี

รวบหัวหน้าฝ่ายรายได้สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับสินบน เลี่ยงจ่ายภาษี

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ง. นายเฉลิมพล เทพนุชิต รอง ปลัด กทม. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ร่วมแถลงผลจับกุม นายประมวล หัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทําการมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” หลังนำกำลังจับกุมตัวได้บริเวณลานจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายประมวล ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี แต่กลับใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มจากการแจ้งเตือนไปยังบริษัทฯของผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้เข้ามาชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่หากยอมจ่ายเงินให้ตนเองจํานวน 3 ล้านบาท ก็จะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ ทําให้ บริษัทฯ ไม่ต้องชําระเงินภาษีจํานวน 40 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาจะมีการเพิ่มจำนวนเงินค่าดำเนินการเป็น 3.5 ล้านบาท อ้างว่าต้องเอาไปแบ่งกรรมการคนอื่นอีกหลายท่าน จนมีการต่อรองราคาลดลงเหลือ 3.2 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายมองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และ ตัวของผู้เสียหายเองก็พร้อมที่จะจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องขอให้มีการตรวจสอบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนเชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินไปส่งมอบให้กับนายประมวล ตามที่เรียกร้อง โดยนัดหมายส่งมอบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พญาไท กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ นายประมวล ได้ขับรถยนต์ของสำนักงานเขต เดินทางมายังที่ดังกล่าวเพื่อรับส่งมอบเงิน เมื่อเห็นว่ามีเรียกรับเงินจริงเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมพร้อมเงินของกลางได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายประมวล ให้การปฏิเสธ อ้างไม่ทราบว่าสิ่งของที่อยู่ในซองเอกสารที่ผู้เสียหายนำมาส่งมอบให้นั้นเป็นเงินสด คิดว่าเป็นเพียงซองเอกสารเท่านั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่ง พงส.กก.1 บก.ปปป. แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนําส่งสํานวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง