คัดลอก URL แล้ว
ทนายตั้ม แจ้งความ! อดีตรองนายก ย. ท้าเปิดภาพ พิธีหมั้น แฉ! ให้เล่ห์กลขอหย่าเมีย

ทนายตั้ม แจ้งความ! อดีตรองนายก ย. ท้าเปิดภาพ พิธีหมั้น แฉ! ให้เล่ห์กลขอหย่าเมีย

“ทนายตั้ม” พา สามีหญิงสาวที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี แจ้งความข้อหาแจ้งความเท็จและให้การเท็จกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี แฉใช้เล่ห์กลหย่าเมีย เคลียร์ตัวเองเพื่อแจ้งความคดีฉ้อโกงได้ ท้ามีหลักฐานการสู่ขอ หรือ งานหมั้นให้นำออกมาโชว์ รับกังวลอิทธิพล อาจทำรูปคดีเปลี่ยน

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความและเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พานาย ‘ก’ สามีของหญิงสาว ที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความอดีตรองนายกรัฐมนตรี ข้อหาแจ้งความเท็จและให้การเท็จ เพื่อให้ได้รับโทษทางอาญา

โดยนายษิทรา กล่าวว่า ตนพานาย ‘ก’ มาแจ้งความแจ้งความเท็จและให้การเท็จ เพื่อให้ได้รับโทษทางอาญา เนื่องจากในหลายเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง เช่น ที่มีการเปิดเผยว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีมีการสู่ขอและทำพิธีหมั้นกับหญิงสาว ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงและไม่เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นจริง เป็นการแต่งเติมข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อให้เข้าข้อกฎหมายว่าตนเองสามารถเรียกคืนทรัพย์สินเงินที่ให้กับฝ่ายหญิงคืนมาได้ แต่หากเป็นเรื่องจริง ตนขอให้นำหลักฐานภาพถ่ายแขกผู้ใหญ่ในงานมายืนยัน เพราะตัวอดีตรองนายกฯ ไปไหนกับผู้หญิงก็มักจะส่งรูปให้เพื่อนดูอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ในความเป็นจริงอดีตรองนายกฯ มีภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย มีการจดทะเบียนสมรสมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งภายหลังได้มีการใช้เล่ห์กล ไปจดทะเบียนหย่าที่ว่าการอำเภอสามพรานจังหวัดนครปฐม ก่อนเวลาที่ตนเองจะมีการแถลงข่าวเปิดเผยข้อมูลในวันที่ 9 ม.ค. ราว 1 ชั่วโมงก่อนหน้า

ซึ่งตนมีข้อมูลหลักฐานการจดทะเบียนหย่า ซึ่งมีผู้ส่งข้อมูลให้เพราะมองว่าเรื่องนี้เห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง โดยทำงานอยู่ที่สามพราน ส่วนข้อมูลส่วนตัวของอดีตรองนายกฯ ไม่จำเป็นต้องไปหา เพราะจะไม่สามารถค้นข้อมูลเพราะเขาเป็นระดับ VIP จะไม่มีการเปิดเผยสถานะใดๆ ให้ทราบอยู่แล้ว ดังนั้นตนจึงนำหลักฐานสำคัญนี้มาใช้ในการดำเนินการแจ้งความในวันนี้

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าให้ทรัพย์สินไปซื้อคอนโด ก็ไม่เป็นความจริง โดยนายษิทราได้นำหลักฐานเป็นเอกสารการซื้อคอนโดในปี 2562 มายืนยัน และบอกว่าเป็นการดำเนินการซื้อก่อนที่อดีตรองนายกรัฐมนตรีและหญิงสาวจะคบหากันในปี 2565 ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีการให้เงินกับหญิงสาวก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีหลักฐานการโอนเงิน หรือการเบิกถอนใดๆ แต่ยอมรับว่าอาจจะมีการให้เงินกันจริง ตามประสาคนคบหากัน แต่อาจจะไม่ได้มีจำนวนมากเป็นจำนวน 10 ล้านอย่างที่ได้กล่าวอ้าง

นายษิทรา กล่าวด้วยว่า ถ้าตัวอดีตรองนายกฯ รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดไปแล้ว หากออกมารับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายเรื่องนี้อาจจะจบด้วยดีกว่านี้ แต่กลับออกมาโยนให้คนอื่นโดนคดีฉ้อโกง เป็นขบวนการด้วย ทั้งนี้ในส่วนบิดา ของฝ่ายหญิง เขาไม่มาอยู่แล้วเนื่องจากติดคดีอื่นอยู่ อดีตรองนายกฯ จึงเป็นการแจ้งความเพื่อให้มีการออกหมายจับ และการที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง เป็นเพียงความเห็นเบื้องต้น ซึ่งตนได้ทำเรื่อง ขอความเป็นธรรมไปที่พนักงานอัยการแล้ว การที่ตำรวจบอกว่าผิดไม่ใช่ว่าจะผิดทุกเรื่อง บางคดีก็มีการยกฟ้องในชั้นศาล ไม่ใช่ตัดสินว่าครอบครัวนี้เป็นคนผิดไปแล้ว

ส่วนกรณีมีกระแสว่าเรื่องนี้จะมีคดีพลิก นายษิทรา และ4 คนทีาถูกกล่าวหาร่วมกันทำเป็นขบวนการ นายษิทรา ระบุว่า ถ้าเกิดเป็นขบวนการเพื่อไปตบทรัพย์ ก็ต้องมีการไปขอเงินเขาก่อนที่จะมีการฟ้องคดี แต่เราฟ้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการคบชู้ มีสิทธิฟ้องค่าเสียหายได้ และหากมีการขอเงินหรือขออะไรจริง เขาคงต้องมีหลักฐานมายืนยันแล้ว

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นาย ‘ก’ รู้มาก่อนหรือไม่ว่าอดีตรองนายกฯ จะมีการฟ้องร้องในคดีฉ้อโกง นายษิทรา ระบุว่า เท่าที่ทราบตั้งแต่นาย ‘ก’ จับได้ เขาก็บอกกับภรรยาว่าจะหย่า แต่ภรรยาไม่ยอมหย่า นาย ‘ก’ จึงบอกว่าจะฟ้องหย่าภรรยาและชู้ด้วย จึงคาดว่าตัวภรรยาน่าจะไปบอกกับอดีตรองนายกฯ จึงมีการแจ้งความจากฝั่งดีตรองนายกฯ เกิดขึ้น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการเรียกเงิน 25 ล้านแต่ไม่ได้ จริงทำให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นนั้น นายษิทรา กล่าวว่า การเรียกเงิน 25 ล้าน เรียกอย่างไรใครเป็นคนเรียก ถือว่าเป็นการพูดลอยๆ ตนเองมีการฟ้องค่าเสียหายไปจริงแต่ตัวเลขไม่ใช่ 25 ล้าน ตนเข้าใจว่าเขาก็มีพรรคพวก ส่วนกรณีที่กระแสข่าวระบุว่าฝ่ายหญิงทำงานเป็นแคดดี้ ในสนามกอล์ฟและ คบหากับอดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเป็น 10 ปีนั้น ไม่เป็นความจริง และยอมรับว่าผู้หญิงได้มีการทำศัลยกรรมมาก่อนที่จะพบกับอดีตรองนายกฯ และไม่มีการใช้เงินของอดีตรองนายกฯ ไปใช้ทำศัลยกรรม หากย้อนไป 10 ปี ฝ่ายหญิงจะอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ตนยอมรับว่ามีความกังวล ว่า อิทธิพลของอดีตรองนายกรัฐมนตรีอาจจะทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง