KEY :
- บช.น. แจ้งความคืบนหน้าคดีเสี่ยเบนท์ลีย์ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแล้ว
- โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา “เมาแล้วขับ” กับคนขับรถหรูดังกล่าวด้วย
- นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกับการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในกรณีการเป่าแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นด้วย
…
วันนี้(11 ม.ค. 66) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณีรถยนต์ Bentley เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขาออก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 โดยระบุว่า
กรณีดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้ความสำคัญ และกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรลงไปควบคุมดูแลเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าวด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและสังคม จึงได้แจ้งความคืบหน้าถึงการดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้
ดำเนินดคี “เมาแล้วขับ”
โดยในประเด็นแรก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า จากการรวบรวมข้อเท็จจริง และหลักฐานเพิ่มเติม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ขับรถยนต์เบนท์ลีย์ใน ข้อหาดังต่อไปนี้คือ “ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ)”
โดยได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้พิจารณาฝากขังตามคำร้อง
สั่งสอบข้อเท็จจริง
ส่วนในประเด็นข้อกังขาที่เกิดขึ้น ต่อขั้นตอนการดำเนินการของตำรวจที่เกิดขึ้นในคดีนี้ และการใช้วิจารณญาณของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทางด้านของผู้บังคับการตำรวจจราจรจึงได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 ได้มอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจจราจรเป็นประธานคณะกรรมการ และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 15 วัน โดยหากมีผลคืบหน้าจะมีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป
โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แจ้งข้อมูลความคืบหน้าให้กับประชาชนเพิ่มเติมในส่วนของคดีดังกล่าวนี้ และได้ย้ำกว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการและเร่งรัดเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นนี้ต่อไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใด เป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป