คัดลอก URL แล้ว
‘สมศักดิ์’ จี้ ติดกำไลอีเอ็ม 10 ปี ไอ้หื่นขืนใจหญิงสาววัย 18 ปี

‘สมศักดิ์’ จี้ ติดกำไลอีเอ็ม 10 ปี ไอ้หื่นขืนใจหญิงสาววัย 18 ปี

KEY :

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายปธานิน เจ็น อายุ 41 ปี ชาวอุบลราชธานี ก่อเหตุขืนใจหญิงสาวอายุ 18 ปี ว่า กรณีนายปธานิน ถือเป็นบุคคลอันตราย และเป็นภัยต่อสังคม เพราะขณะถูกจับกุม ก็ยังพบเหยื่ออีกคนถูกขังอยู่ในบ้านพัก ซึ่งเป็นการกระทำความผิดซ้ำแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยหากดูประวัตินายปธานิน จะพบว่า เคยถูกต้องโทษจำคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง คือ คดีลักทรัพย์ ปี 2559 ถูกคุมขังที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี และคดียาเสพติด ปี 2560 ถูกคุมขังที่เรือนจำคลองไผ่ ซึ่งถูกกำหนดโทษ 4 ปี 6 เดือน ก่อนถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อพ้นโทษมายังไม่ถึง 1 ปี นายปธานิน ก็มาก่อเหตุซ้ำ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ด้วยการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ภายในสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะขืนใจ ขณะเดียวกัน ยังกระทำกับเหยื่ออีกรายก่อนหน้าเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งกรณีกระทำผิดซ้ำแบบนี้ จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายใหม่ คือ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง ในมาตรา 3 โดยจะถูกคณะกรรมการพิจารณา เพื่อเสนอศาล ควบคุมภายหลังพ้นโทษ ด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี พร้อมถูกเฝ้าระวังด้วยอาสาคุมประพฤติ หากพบพฤติกรรมเสี่ยง จะพิจารณาคุมขังฉุกเฉินทันที

“เจตนาที่ผมผลักดันกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำออกมา ก็เพื่อเอามาควบคุมคนเหล่านี้ ไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำอีก และสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ดังนั้น นายปธานิน จะถูกเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษตามกฎหมายใหม่เต็ม ๆ ที่จะมีผลบังคับใช้ 23 ม.ค.66 ส่วนเหยื่อล่าสุดทั้ง 2 ราย ผมก็ได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่เร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อแล้ว พร้อมแจ้งสิทธิ และให้คำแนะนำการดำเนินคดี ซึ่งเหยื่อจะได้รับเงินเยียวยา รายละไม่เกิน 110,000 บาท แบ่งเป็น ค่าตอบแทนความเสียหาย 50,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ 20,000 บาท โดยผมรู้สึกเสียใจทุกครั้ง ที่เกิดเหตุลักษณะนี้กับกลุ่มผู้หญิง จึงสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ เร่งจัด Watchlist บุคคลอันตรายตามกฎหมายใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ มีโอกาสก่อเหตุได้อีก“

รมว.ยุติธรรม กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง