น้ำท่วมหนัก-ดินถล่มในเมียนมา ดับแล้ว 46
ฝนฤดูมรสุมในเมียนมายังตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 46 รายและอีกกว่า 2 แสนคนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังคาเรือน , พื้นที่ทางการเกษตร , สะพานและถนนต่างๆ ขณะที่กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากยังเป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมียนมาเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนหลายหมื่นชีวิตในพื้นที่ห่างไกลที่ต้องเผชิญความยากลำบากจากระดับน้ำที่ท่วมสูงถึงหลังคา
ฝนฤดูมรสุมในเมียนมาทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่
เมียนมาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และยากจน ระบบสื่อสารและโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พัฒนามากนัก องค์การสหประชาชาติออกมาเตือนว่าภาพรวมความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้อาจไม่ปรากฏออกมาในเร็ววันนี้ทางการเมียนมาได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักสุด 4 แห่ง ทางตอนกลางและตะวันตกของประเทศเป็นเขตภัยพิบัติแห่งชาติในพื้นที่ยากจนทางตอนเหนือของเขตสะกาย ชาวบ้านกล่าวว่าน้ำได้ไหลอย่างรวดเร็วเข้าไปยังหมู่บ้านต่างๆทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนและทุ่งนา “เอ เมียต ซู” อายุ 30 ปี ซึ่งอาศัยในวัดที่ถูกใช้เป็นสถานที่หลบภัยชั่วคราวในเมืองกาเลย์กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่าไม่มีการเตือนภัยเหตุน้ำท่วมมาก่อน ตอนแรกพวกเธอคิดว่าเป็นเพียงน้ำท่วมปกติตามฤดูกาล แต่ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงบ้านทั้งหลังก็จมอยู่ใต้น้ำสามีของเธอต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาและไม่สามารถหาทางออกมาได้
พื้นที่ห่างไกลต้องเผชิญความยากลำบากจากระดับน้ำที่ท่วมสูงถึงหลังคา
ด้าน “โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา” รายงานวานนี้ว่าเกิดเหตุดินถล่มตามพื้นที่ต่างๆของรัฐชินที่อยู่ทางตอนใต้ของเขตสะกายส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในเมืองฮาคา 700 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายและประชาชนกว่า 5 พันคนในเมืองอื่นๆ อพยพไปอยู่ค่ายบรรเทาทุกข์ ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ให้สัญญาว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ อย่างไรก็ตามหลายพื้นที่ในรัฐชินถูกตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆโดยรอบ ส่วนรัฐมนตรีสาธารณสุขเมียนมา เผยว่ากระทรวงกำลังเร่งแจกจ่ายเวชภัณฑ์รวมถึงคลอรีนเม็ดไปทั่วประเทศแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้อย่างไรท่ามกลางภาวะขาดแคลนเรือและเฮลิคอปเตอร์
ผู้อพยพต้องอาศัยในวัดที่เป็นที่หลบภัยชั่วคราว
นอกจากนี้ยังเกิดฝนตกหนักในรัฐยะไข่ซึ่งมีคนไร้ที่อยู่อาศัยราว 1 แสน 4 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮีนจาที่อาศัยอยู่ในค่ายพักชั่วคราวตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างชาวโรฮีนจากับชาวพุทธ เมื่อปี 2555 ขณะที่อินเดียมีประชาชนเสียชีวิตหลายร้อยรายในช่วงไม่กี่วันมานี้ ส่วนเนปาล , ปากีสถาน และเวียดนามเกิดเหตุน้ำท่วมและดินถล่มเนื่องจากฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักตามฤดูกาล