KEY :
- ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมผู้เสียหายแถลงข่าว กรณีซื้อรถยนต์มือสองจากเต็นท์แห่งหนึ่ง ซึ่งพบว่า ถูกหลอกขาย สภาพไม่พร้อมใช้งาน
- โดยผู้เสียหายระบุว่า ตกลงซื้อรถมือสองจากเต็นท์แห่งหนึ่ง วันรับมอบรถ พบคอนโซลฝั่งตรงข้ามหลุด และทางเต็นท์ซ่อมแซมให้
- แต่เมื่อขับรถออกจากเต็นท์มาได้เพียง 100 เมตร ล้อหน้าซ้ายหลุด วิ่งนำตัวรถไปชนร้านขายสเต็ก
- หลังจากนั้นพบปัญหา อีกหลายอย่าง และแจ้งยกเลิกสัญญา แต่ทางเต็นท์ไม่ยอม
- ด้านทนายเดชา ระบุ อาจเข้าข่ายความผิด ฐานขายของโดยหลอกลวง คุณภาพของอันเป็นเท็จ
…
วันนี้ (7 พ.ย. 65) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้แถลงข่าวกรณีมีผู้เสียหายถูกเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด หลอกขายรถกระมือสอง สภาพไม่พร้อมใช้งาน โดยขับออกร้านได้เพียงไม่นานก็เกิดล้อหลุด เอารถเข้าศูนย์พบปัญหาหลายจุด เมื่อเจรจากับเต็นท์ขอคืนรถกลับถูกปฏิเสธ อ้างสัญญาเกิดขึ้นแล้วยกเลิกไม่ได้ ซ้ำในสำเนาเล่มรถยังพบว่าไฟแนนซ์ล่าสุดที่มีการถือกรรมสิทธิ์ของรถคันนี้ เป็นลำดับที่ 10 ด้วย
วรรณพิชา ผู้เสียหาย ระบุว่า ซื้อรถมือสองจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด ตกลงซื้อขายในราคา 409,000 บาท โดยจ่ายค่าจองรถ ณ วันนั้น 5,000 บาท และตกลงผ่านชำระ ผ่านไฟแนนซ์ 9,906 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 60 งวด ทว่าขณะรับรถได้เดินไปเปิดประตู พบคอนโซลตรงประตูฝั่งคนขับหลุดลงมาโดยช่างเต็นท์รถรีบซ่อมให้ทันที เมื่อซ่อมเสร็จก็ขับออกมาได้ระยะทางประมาณ 100 เมตร จึงได้ยินเสียงเหมือนมีบางอย่างหัก ก่อนจะเห็นว่าล้อหน้าซ้ายวิ่งนำหน้ารถไปพุ่งชนร้านเสต็กริมทาง
หลังจากตนลงมาตรวจสอบความเสียหายและโทรศัพท์แจ้งเซลล์ของเต็นท์รถ ทางเต็นท์จึงส่งรถลากมานำรถกลับไปที่เต็นท์ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่มาเจรจาค่าเสียหายกับร้านสเต็ก รับปากจะชดใช้ค่าเสียหายกับร้านสเต็กด้วย แต่พอผ่านไปหนึ่งเดือนทางร้านสเต็กโทรศัพท์ไปต่อว่าตนเองกับสามี ว่าไม่มาชดใช้ค่าเสียหาย ตนเองจึงติดต่อมาหาเต็นท์ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบจากเต็นท์ว่า “รถมีประกันชั้น 1 แล้ว ก็ให้ประกันจัดการไป ทำไมต้องให้เต็นท์จ่าย”
วันที่เกิดเหตุล้อหลุด มีลูกค้าในร้านสเต็กริมทางเป็นเซลล์ขายรถยนต์ แนะนำตนว่ารถแบบนี้สภาพไม่พร้อมใช้งาน ควรยกเลิกสัญญาทันที และได้ไปเป็นเพื่อนช่วยเจรจา แต่ทางเต็นท์รถปฏิเสธที่จะคุยกับเซลล์ ยืนยันว่า จะคุยกับลูกค้าของเต็นท์เท่านั้น ตนเองจึงขอยกเลิกสัญญา ขอคืนรถเพราะไม่กล้าขับแล้ว แต่ทางเต็นท์ปฏิเสธ โดยอ้างว่า “สัญญาเกิดขึ้น แล้วยกเลิกไม่ได้” และเปลี่ยนประกันจากชั้นสองเป็นชั้นหนึ่ง ตนเองจึงจำใจต้องขับรถคันดังกล่าวกลับบ้าน จ.ชลบุรี โดยระหว่างทางพบว่าหลังคารั่วด้วย หลังได้มาปรึกษาทนายเดชา ได้คำแนะนำให้เอารถไปเข้าศูนย์เพื่อตรวจสภาพ ซึ่งทางศูนย์บริการแจ้งว่า “รถพังยกคัน” โครงตัวถังด้านหน้าคด สาเหตุรถถูกชนอย่างหนัก ประกอบกับตัวรถทั้งคันเป็นสนิม อาจจมน้ำมาก่อน ส่วนสาเหตุที่ล้อหลุด เนื่องจาก ล้อทั้ง 4 ล้อ ไม่ได้ยึดน็อตไว้
ทนายเดชา ระบุว่า กรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิด ฐานขายของโดยหลอกลวง คุณภาพของอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 หรือ การขายของอันหลอกลวงคุณภาพอันเป็นเท็จ ซึ่งกรณีนี้ผู้เสียหายสามารถนำรถไปคืนเต็นท์ ขอเงินคืน พร้อมเรียกค่าเสียหายได้ เพราะว่าศาลฎีกา เคยตัดสินคดีลักษณะแบบนี้แล้วว่าถ้าหากได้รถเสื่อมคุณภาพ ไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ซื้อ ถือว่าผิดสัญญาซื้อขาย ไฟแนนซ์จะต้องรับผิดชอบ ในฐานะผู้ได้รับผลประโยชน์จากดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าชื้อ จะอ้างว่า เป็นความผิดของเต็นท์ไม่ได้
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล