“เหยื่อสาวทอมคนสนิทดารา “ต” เล่าถูกตีซี้หลอกร่วมลงทุน ทุบรีสอร์ทตัวเอง ค่าเสียหายเกือบ 10 ล้าน ขณะเหยื่ออีกรายเป็นแฟนคลับนาน 16 ปีจึงไว้ใจ ด้านทนายรณณรงค์ ชี้ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน”
…
ในรายการเจาะข่าวเด็ด The Day News Update Special ทางช่อง Mono 29 พิธีกร คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ พูดคุยกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ซึ่งจะมาเล่าพฤติการณ์ของสาวทอมโกงที่เงินเหยื่อมากกว่า 2 ราย พร้อมต่อสายพูดคุยกับผู้เสียหาย ถูกสาวทอมอ้างเป็นคนสนิทของดาราดัง หลอกเล่นหุ้นและยืมเงินลงทุน สูญเงินนับสิบล้านบาท ล่าสุดยังตามตัวไม่ได้ ข้องใจดาราสาวมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
พิธีกร : คุณจุ๋มหนึ่งในผู้เสียหายบอกว่ารู้จักกับสาวทอมคนนี้ แล้วสาวทอมไปสนิทกับดาราชื่อย่อ ต. หนึ่งคนในวงการบันเทิง คุณจุ๋มไปรู้จักกับสาวทอมคนนี้ผ่านทางดาราหรือไปรู้จักเขาได้ยังไงครับ
ผู้เสียหาย : ไปรู้จักตอนที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ค่ะ แล้วเขาเข้ามาตีสนิทค่ะ เราเดินทางไปเที่ยวกับเขากลุ่มเดียวกัน
พิธีกร : เรารู้จักกับเขาก่อนจะเดินทางไปเที่ยวด้วยกันหรือไม่
ผู้เสียหาย : ไม่ค่ะไม่รู้จักค่ะ ไปรู้จักที่นู่นเลยค่ะ
พิธีกร : หมายถึงเราก็ซื้อกรุ๊ปทัวร์ธรรมดาหรือครับ
ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะต่างคนต่างซื้อ ต่างคนต่างไปค่ะ
พิธีกร : แล้วไปที่สิงคโปร์ ไปรู้จักกันกี่วันยังไงครับ ทำไมถึงสนิทสนมกันขนาดนั้น
ผู้เสียหาย : เขาเข้ามาตีสนิทเรา แล้วก็ทำแบบว่าเป็นคนที่คุยสนุก แล้วก็พูดจาดีอะไรอย่างนี้ค่ะ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย เขาก็แต่งตัวลักษณะดีค่ะ ผิวพรรณเขาก็ดูดี
พิธีกร : บุคลิกเค้าเป็นยังไงครับ
ผู้เสียหาย : ดูทอมๆ ค่ะ สูงประมาณน่าจะ 160 ซม.ค่ะ แล้วก็ตอนที่รู้จักกันทีแรกเลยยังไม่ใส่แว่น แล้วก็ผิวขาว
พิธีกร : แล้วเขามาตีสนิทกับเรา พูดคุยกันเหมือนภาษาคนที่ไปเที่ยวด้วยกันนั่นแหละถูกไหมครับ
ผู้เสียหาย : ค่ะใช่ค่ะ
พิธีกร : แล้วทำไมเราถึงไปถูกเขาหลอกเอาเงินไปตั้งหลายล้านล่ะครับ
A( (ผู้เสียหาย) : เหมือนเราไว้ใจเขาค่ะและเหมือนโง่ไปเลย คือสงสารเขา คือสิ่งที่เขาเล่ามาตอนก่อนที่จะมีเรื่องราวกัน เราก็คุยกันสนุกสนาน เฮฮา หลังจากไปเที่ยวมาเราก็นัดไปกินข้าวที่ห้างด้วย เราก็ไปกับน้องสาวเรา เขาก็ไปกับเพื่อนด้วย ก็ดูสนิทสนมกัน เหมือนกับเขาทำให้เราไว้วางใจ แล้วพอถึงเวลาเขาก็บอกว่าจะมาทำธุรกิจกับเรา เพราะเขารู้ว่าเรามีรีสอร์ท โฮมสเตย์ ร้านอาหารที่จันทบุรี เขาก็เลยเข้ามาบอกว่าจะร่วมลงทุน
พิธีกร : เขาบอกไหมครับว่าเขามีเงินทองอะไรยังไงบ้างที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้น่าสนใจน่าวางใจให้มาร่วมลงทุนด้วยกัน
ผู้เสียหาย : เขาบอกว่าบ้านเขามีเงิน แล้วเขาก็คือทำให้น้องสาวเห็นด้วยว่า แล้วเขาเวลาที่ดาราทำอาหารขาย เค้าก็ไปซื้อทีละหลายหมื่นเลยค่ะ แล้วน้องสาวก็ไปเห็นกับตาตัวเองว่าเขาแพ็คของให้คนนี้ แล้วเค้าก็ส่งให้แม่เขาอะไรอย่างนี้ค่ะ เราก็มั่นใจว่าเขามีเงิน
พิธีกร : แล้วคุณจุ๋มไปรู้จักว่าเค้าเป็นแฟนของดารา ต.ยังไงครับ
ผู้เสียหาย : เขาพาไปที่ออฟฟิศที่สำนักงานที่ไปซื้อน้ำพริกค่ะ คือปกติแล้วเขาจะพาน้องสาวไปหลายครั้ง ไปซื้อพวกน้ำพริกซื้ออะไรหลายๆ อย่าง แต่ว่าตอนที่ไปกับเราเขาเอาเงินไปจ่ายดาราแสนกว่าบาท เขาบอกว่าเขาเอากระเป๋าแบรนด์เนมของดาราไปช่วยขาย ก็เลยทำให้เราเชื่อว่าเขาสนิทสนมกันเป็นแฟนกันค่ะ แล้วเขาก็มีภาพมาให้เราดูว่าเขาเป็นแฟนกัน มีภาพโป๊เปลือยก็มีค่ะ ตอนที่เขาอยู่ด้วยกัน ตอนที่เขาวีดีโอคอลกัน มีความสนิทสนมใกล้ชิด
พิธีกร : แล้วเขาบอกไหมครับว่าเขาเป็นแฟนกับดารา ต.คนนี้
ผู้เสียหาย : บอกค่ะ เขาบอกตลอดค่ะ แล้วเขาก็บอกว่าพยายามบอกเลิกแต่ว่าดาราคนนี้รักเขามากอะไรอย่างนี้ค่ะ
พิธีกร : แล้วยังไงครับเราหลงเชื่อไป แล้วเขาบอกว่าจะชวนเราไปลงทุนอะไรนะครับ
ผู้เสียหาย : เขาก็จะชวนเราไปซื้อหุ้นอะไรซักอย่างค่ะแต่ว่าเราไม่ได้เป็นลงทุนกับเขา เขาก็เลยตามมาหาที่จันทบุรีเลย เขาก็บอกว่าจะมาดูโฮมสเตย์เพื่อจะทำร้านกาแฟที่โฮมสเตย์ของเรา ตอนนั้นเราก็มั่นใจ 100% เลยค่ะ ว่าเขาก็คงจะมาเช่า เราก็คิดว่าก็ดีเพราะเราจะได้มีรายได้ เพราะเขาจะมาลงทุนกับเรา เราก็คิดว่ามีแต่ได้กับได้ แล้วเขาก็มาเช่าโฮมสเตย์ทำร้านกาแฟและเช่ารีสอร์ทเราเป็นที่พักอยู่อาศัย
พิธีกร : แล้วเขาจ่ายเงินค่าพักอาศัยด้วยไหมครับ
ผู้เสียหาย : ยังไม่จ่ายค่ะ เขาได้แต่บอกว่าเดี๋ยวเขาได้เงินจากแม่เขา แล้วเขาจะจ่ายให้ทีเดียวค่ะ เขาให้แต่จดไว้อย่างเดียวว่าอะไรเท่าไหร่
พิธีกร : แล้วคราวนี้เขาก็เลยชวนคุณจุ๋มขยายกิจการเลย แล้วรีสอร์ทตอนนั้นติดโควิด 19 อยู่ด้วยนะครับ เขากล่อมเรายังไงทำให้เรารู้สึกว่าขยายกิจการก็ได้
ผู้เสียหาย : เขาบอกให้จุ๋มติดต่อช่างมาทำเลยจะได้เสร็จเร็วๆ ถ้าหมดโควิด19 เราจะได้เปิดร้านกาแฟได้ คนก็จะเที่ยวกัน เราก็ติดต่อช่างมาทำขยายรีสอร์ท เขาก็บอกว่าเขาอยู่ไม่ได้หรอกมันเล็กไปต้องขยายให้ใหญ่กว่านี้ แล้วเขาก็บอกว่าเขาต้องอยู่สองหลัง อีกหลังหนึ่งเอาเก็บเสื้อผ้า ข้าวของเขาเยอะ เพราะว่าเค้าเป็นคนมีเงิน เราก็ติดต่อช่างมาทุบบ้านหมดเลยค่ะเพื่อขยายให้มันใหญ่ขึ้นค่ะ
พิธีกร : แล้วเค้าเอาเงินมาให้เราในการจ้างช่างมาจัดการพื้นที่ไหมครับ
ผู้เสียหาย : ยังไม่ให้เลยซักบาทเดียวค่ะ ก็ค่าเสียหายทั้งหมด ทั้งร้านกาแฟ ค่าทุบขยายรีสอร์ทด้วย ก็หลายบาทอยู่ค่ะเพราะเขาสั่งทำสั่งรื้อหมดใหม่ทั้งหลัง ค่าเสียหายหลักล้านค่ะ ถ้าเป็นการขยายกิจการอย่างเดียวก็น่าจะประมาณล้านกว่าบาท แต่ยังไม่รวมกับที่เขาเค้ามีคดีความกับแม่เขา หมายถึงพอเขาให้เราขยายกิจการมันก็มีหนี้สินขึ้นมา แล้วเขาก็บอกว่าเขาทะเลาะกับแม่เขา แล้วเขาก็มีเงินที่จะต้องได้จากแม่เขาเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท มีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล แล้วเขาก็พูดให้เราสงสารว่าเขาจะต้องไปขึ้นศาลกับแม่ ต้องไปจ้างทนายความ ไม่มีเงิน แล้วต้องการเงินเท่านั้นเท่านี้ วันนั้นขอเท่านี้ ทีละนิดทีละหน่อยหลายๆ ครั้ง เราก็ให้เขาเพราะสงสารเขาและอยากต้องการให้เขาจบคดีความกับแม่เขา เพื่อจะต้องเอาเงินมาจ่ายให้เราที่เราทำรีสอร์ทไปที่ขยายกิจการไป
พิธีกร : เขาบอกว่าเขาจะได้เงินจะแม่เขาเท่าไหร่ครับ
ผู้เสียหาย : เค้าบอกว่าจะได้เป็นสิบล้านเลยค่ะ แล้วเขาก็พูดให้เราสงสารว่าเค้าเป็นลูกบุญธรรม
พิธีกร : แล้วระหว่างที่เราช่วยเขาเนี่ยเค้ามีพูดถึงดาราสาว ต. อีกหรือไม่ครับ
ผู้เสียหาย : พูดตลอดค่ะ แล้วก็เอารูปมาให้ดูตลอด
พิธีกร : แล้วทำไมดาราสาวไม่มาช่วยอะไรเขา เขาเคยพูดเรื่องนี้ไหมครับ
ผู้เสียหาย : เขาบอกว่าแฟนดาราสาว คือจับได้ว่ามีอะไรกัน ตอนนี้ก็เลยเหมือนกับว่าช็อต ปกติเขาก็คือไปเที่ยวไปกินด้วยกัน ไปเดินห้าง ช้อปปิ้งกับดาราคนนี้ตลอด แล้วเขาก็พาเราไปห้างร้านที่เขาเคยไปกับดารา แล้วเค้าก็ไปถามเด็กเสิร์ฟเหมือนสร้างความมั่นใจให้เราเชื่อว่าเค้าเคยมาจริงกับดาราจริง เราก็เลยมั่นใจ
ทนายรณณรงค์ : คุณจุ๋มตอนนี้โดนไปเท่าไหร่ค่าเสียหายทั้งหมด
ผู้เสียหาย : 6-7 ล้านบาทค่ะ แต่ครั้งแรกแจ้งความไป 10 ล้านบาทเลย แต่ตัวเลขมันไปไม่ถึง แล้วก็หลักฐานที่ไปให้ตำรวจมันไปไม่ครบ ก็เลยได้แค่ประมาณ 6-7 ล้านบาทค่ะ ทั้งสองคนรวมกับน้องสาวด้วยนะคะ ทั้งค่าลงทุนร้านกาแฟ รีสอร์ท รวมกับที่เขายืมไปทีละนิดละหน่อยด้วยค่ะ
พิธีกร : แล้วมีสัญญาในการยืมเงินบ้างไห มครับ
ผู้เสียหาย : ไม่มีค่ะ แล้วเขาก็เอาเงินทั้งของจุ๋ม น้องสาว ของพ่อ แม่ด้วย คือเขาเอาหมดทั้งบ้านเลยค่ะ
พิธีกร : แล้วทางบ้านนี้เชื่อเขาหมดเลยเหรอครับ
ผู้เสียหาย : เชื่อหมด สงสาร เพราะว่าเขาทำตัวน่าสงสารมาก แล้วเขาเป็นคนพูดจาดีค่ะ คือแม่มีทองก็ถอดทองให้ค่ะ
พิธีกร : แล้วคุณจุ๋มไปฟ้องศาลแล้วใช่ไหมครับ
ผู้เสียหาย : ฟ้องศาลแล้วค่ะ แต่เขาไม่มาที่ศาล เขาหนีหมายศาลค่ะ แล้วเขาไปเช่าหลักทรัพย์ประกัน แต่บริษัทหลักทรัพย์บอกว่าดาราเป็นคนมาเช่าหลักทรัพย์ให้
พิธีกร : บริษัทหลักทรัพย์บอกว่าดารามาเช่าหลักทรัพย์เพื่อนำไปประกันตัวเขา
ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ
พิธีกร : ทนายรณณรงค์ อย่างนี้อะไรยังไงครับ
ทนายรณณรงค์ : ส่วนหนึ่งนะครับ การเช่าหลักทรัพย์ก็สามารถเช่าได้ คนรู้จักกันก็ช่วยเหลือกันได้ตามปกติ เบื้องต้นไม่ได้มีความผิดอะไร ถ้าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ซึ่งคำว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยหมายความว่าเงินที่คุณจุ๋มโอนมาไม่ได้ถูกโอนต่อไปให้เขา
พิธีกร : ถ้าเงินนั้นไม่ได้โอนไปทั้งก้อนแบบที่คุณจุ๋มโอนมาให้สาวทอม แต่โอนเป็นค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ อันนี้เกี่ยวไหม
ทนายรณณรงค์ : ต้องดูว่ามันเป็นค่าอะไร ถ้าเงินที่คุณจุ๋มโอนให้เขา อันนี้เป็นการดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่หลังจากเขาเอาไปให้ใครต่อ ตรงนี้นี่แหละครับอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยที่สองได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังต้องไปสืบทราบกันต่อ แล้วตอนที่ทำคดีมาเงินโอนไปที่ใครเขามีหลักฐานอะไรไหม ตำรวจทำที่นั่น
ผู้เสียหาย : ตำรวจไม่ประสานมาเลยค่ะ มีแต่เขานัดว่าจะไปจ่ายเงินที่ สน.ค่ะ แต่ว่านัดแล้วเขาก็ไม่มา
พิธีกร : นี่คือหนึ่งเรื่องนะครับที่สาวทอมคนนี้ก่อเหตุไว้ อีกเรื่องหนึ่งคือทนายรณณรงค์ก็มีลูกความที่โดนสาวทอมคนเดียวกันหลอก เขาไปทำอะไรกับลูกความของทนายครับ
ทนายรณณรงค์ : เคสนั้นก็เหมือนเคสนี้แหละครับ แต่อาศัยว่าเขาเป็นแฟนคลับติดตามนางเอก ต. คนนี้มา 16 ปีแล้ว แล้วในระหว่างการพูดคุยเขาก็อาศัยความว่าเขาสนิทกับดาราคนนี้ และเอาภาพแบบที่คุณจุ๋มได้เห็นให้ดูเหมือนกัน แล้วก็บอกว่านี่คือหลักฐานที่เขาเป็นแฟนกับนางเอกคนนี้ คือสาวทอมอ้างแบบนี้ แล้วก็ชวนให้คนที่ชื่อน้องไปลงทุนกับเขา และเขาก็เอาภาพที่ไปเที่ยวที่สิงคโปร์กับคุณจุ๋มมาหลอกด้วย ว่าเขาพาคนไปลงทุนที่สิงคโปร์
คุณน้องบอกว่าลงทุนไปก้อนแรก 2 แสนบาท คนละ 1 แสนบาทกับพี่สาว เดือนเดียวได้กลับมาประมาณ 50% แล้วก็ได้เงินต้นกลับมาด้วย ในเดือนกันยายนปี 2564 หลังจากนั้นก็มีการจ่ายเพิ่มไปจนกลายเป็น 6 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนหุ้นสิงคโปร์แล้วจะปันผลกลับมาแบบรอบแรกอ่ะ
พิธีกร : ตอนนี้หายเงียบไปเลยเหรอครับ
ทนายรณณรงค์ : หายเงียบเลยครับ พร้อมกับมีหมายจับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จากที่ฝั่งทางคุณจุ๋มพูดมาผมจับประเด็นได้ว่าปี 2564 สาวทอมคนนี้ เริ่มมีปัญหาทางคดีความถูกฟ้องร้อง แสดงว่าเขาต้องมีประวัติอย่างนี้มานาน เผลอๆ เงินคุณจุ๋มและคุณน้อง อาจจะเอาไปจ่ายคดีเก่าๆ ของเขา เลยทำให้ยังอยู่รอดมาได้
พิธีกร : คุณจุ๋มครับหลังจากที่เราแจ้งความดำเนินคดีกับเขา แล้วเขาหนีหมายศาล ได้ข่าวว่าเค้าเดินทางไปต่างประเทศและยังโทรกลับมาหาคุณจุ๋มด้วยเหรอครับ
ผู้เสียหาย : เขาบอกอ่ะค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน เขาบอกว่าเขาอยู่ที่บ่อนที่กัมพูชา เขาบอกว่าเค้าทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ประมาณนี้ค่ะ
พิธีกร : แล้วเขายังโทรมาชวนคุณจุ๋มทำธุรกิจกับเขาอีกเหรอครับ
ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับขายของ ให้เราซื้อของทางนี้ส่งไปให้เขา พวกของแห้ง เช่น กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง อาหารทะเลแห้ง เขาบอกว่าทางนั้นจะได้ราคาดี แล้วเขาก็ส่งลิงค์มาให้ แต่เราก็เอะใจ เราก็ไม่กล้ากดลิ้ง เพราะตอนหลังมีข่าวว่ากดลิ้งแล้วเงินจะหายจากบัญชี ก็เลยไม่กล้ากดลิงค์เข้าไปดู เราก็ไม่ได้สนใจเลยค่ะ
พิธีกร : แล้วคุณจุ๋มได้ทวงเงินกับเขาไหมครับ
ผู้เสียหาย : ทวงค่ะ เขาบอกว่าเขามีเงินอยู่ที่ตัวเป็น 10 ล้านบาท แต่เขาบอกว่าเขาไม่สามารถคืนได้ เพราะว่าเงินเขาไม่สามารถโอนมาได้ แล้วเขาบอกว่าจะกล้ารับหรือ เพราะว่าเงินของเขาเป็นเงินผิดกฎหมาย ระวังจะโดนตรวจสอบการฟอกเงินนะ เราก็กลัว เลยไม่กล้า
พิธีกร : แล้วได้ส่งอาหารทะเลแห้งไปให้เขาไหมครับ
ผู้เสียหาย : ไม่ได้ส่งเลยค่ะ เพราะว่ารู้ว่าเขาต้องหลอกอีกค่ะ
พิธีกร : แล้วคุณจุ๋มยังติดต่อเขาได้อยู่มั้ยครับตอนนี้
ผู้เสียหาย : ไม่เคยติดต่อค่ะ ไม่เคยโทรไปเองนอกจากเขาโทรมา
พิธีกร : แล้วเค้ายังพูดถึงดารา ต.อยู่ไหมครับ
ผู้เสียหาย : พูดถึงค่ะเขาก็บอกว่าเขาก็ยังคบกันอยู่ แต่เขาก็ถามถึงญาติของพี่สะใภ้ของดารา เพราะก็โดนเขาโกงด้วย สาวทอมคนนี้ก็โทรมาถามว่าพี่สะใภ้ดาราคนนี้โทรมาหาไหมและบอกว่าให้เราอย่าไปคุยกับพี่สะใภ้ดารานะ แต่พี่สะใภ้ของดาราคนนี้ก็เคยโทรมาหาจุ๋มค่ะ ว่าเขาก็โดนเหมือนกัน โดนหลอกให้ลงทุนเนี่ยค่ะ
พิธีกร : ได้ข่าวว่าคุณน้องหนึ่งในผู้เสียหายก็คุยกับดารา ต. เหมือนกัน แล้วเขาบอกว่าไงครับ
ทนายรณณรงค์ : ดารา ต. คนนี้เขาบอกว่าเขาก็โดนเหมือนกัน โดนกระเป๋าไป 5 ล้านบาท แล้วเขาก็ถามว่าแล้วทำไมดาราไม่ไปแจ้งความ เขาก็บอกว่าเขาอาย
พิธีกร : อย่างนี้แปลว่าดาราเขากันตัวเองออกมาไหม
ทนายรณณรงค์ : ก็ถือว่าเขาก็กันตัวเอง แต่เมื่อฟังจากคุณจุ๋มว่าเขาไปประกันตัวให้สาวทอม คุณน้องเขาก็เลยไม่เชื่อดาราไง ซึ่งตอนแรกคุณน้องจงรักภักดีดารา ต. คนนี้มา 16 ปี แล้ววันนี้ก็ยังไม่เอาเรื่องดารานะ เอาเรื่องแค่สาวทอม แต่เมื่อถามว่าวันนี้มีความคืบหน้ายังไงคุณน้องก็บอกว่ามีหลายประเด็นที่เอะใจว่าดาราสาวไม่รู้เรื่องด้วยจริงหรือ
พิธีกร : แล้วเรื่องของการประกันตัว เห็นมีกระแสข่าวอีกสายหนึ่งจากผู้จัดการของดาราคนนี้บอกว่ายังไงครับ
ทนายรณณรงค์ : บอกว่าไม่ได้เป็นคนไปเดินเรื่องประกันตัวเลยไม่เกี่ยวเลย เลิกกันนานแล้ว แต่เมื่อมาฟังจากที่คุณจุ๋มเล่า กลับเป็นคนละเรื่องกัน
พิธีกร : แต่ของคุณจุ๋มไม่ได้คุยกับดาราเอง แต่คุยกับสาวทอม ซึ่งสาวทอมยังมีความสัมพันธ์กับดาราอยู่ใช่ไหมครับ
ผู้เสียหาย : ค่ะใช่ค่ะ เพียงแต่เขาไม่ถูกกับพี่สะใภ้ดาราเท่านั้น เค้าโกงพี่สะใภ้ดารามาเป็นหลักล้านบาทเหมือนกันค่ะ อยากจะถามทนายรณณรงค์ว่า อย่างนี้จะจับตัวได้ไหมคะเพราะเขาหนีหมายศาลค่ะ
ทนายรณณรงค์ : เดี๋ยวยังไงช่องโมโน 29 ช่วยกันตามนะครับ หากเข้ามาประเทศไทยเมื่อไหร่โดนรวบแน่นอน นักข่าวตามติดแบบนี้อยู่ได้ไม่นานหรอกครับ เผลอๆ อาจจะอยู่ตรงชายแดนไม่ได้ข้ามไปฝั่งกัมพูชาหรอก แต่หลังจากรายการออกอากาศไปอาจจะตามง่ายขึ้นแล้ว เขาอาจจะไม่กล้าโทรหาคุณจุ๋มแล้ว
พิธีกร : แล้วทางฝั่งของคุณน้องจะดำเนินคดีอะไร
ทนายรณณรงค์ : มีหมายจับอยู่ในมือ เหลือแค่ไปจับมาให้หน่อย ต้องพึ่งพาตำรวจ สน. หัวหมากแล้วครับ
พิธีกร : เรื่องนี้เดี๋ยวตามดูกันต่อครับ ยังคงเป็นประเด็น และหลายคนอาจจะถามว่าดารา ต. คือใคร ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะค่อยๆ คลี่คลาย และฝากคุณผู้ชมอย่าตกเป็นเหยื่อครับแบบนี้มีเยอะจริงๆ