คัดลอก URL แล้ว
เตือนภัย! มุกใหม่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ปลอมเป็นสรรพากร หลอกโหลดแอปฯ ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

เตือนภัย! มุกใหม่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ปลอมเป็นสรรพากร หลอกโหลดแอปฯ ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

KEY :

แก๊งคอลเช็นเตอร์ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ โดยใช้วิธีใหม่ โทรหลอกเหยื่อ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ขอให้โหลดแอปพลิเคชันเว็บไซต์ของสรรพากร พร้อมให้กรอกข้อมูล เพื่อทางสรรพากรจะได้คืนเงินภาษีให้ 17,000 บาท ทำให้เหยื่อลงเชื่อ กดไปมาตามแก็งคอลเซ็นเตอร์บอก มาดูอีกที่เงินในบัญชีสูญหายหมด

ด้านผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถาม น.ส.ภัทราวดี อายุ 27 ปี ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย (ผู้เสียหาย) เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมา บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร โดยถามว่า คุณได้ใช้แอปฯถุงเงินหรือไม่ โดยทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถบอกชื่อนามสกุลที่อยู่ของเหยื่อได้ทั้งหมด ทำให้เหยื่อลงเชื่อ

โดยอ้างว่าเหยื่อได้จำหน่ายสินค้า ใช้จ่ายเงินผ่านแอปฯถุงเงิน โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่า ทางสรรพากรจะจ่ายเงินภาษีคืนให้ เป็นจำนวนเงิน 17,000 บาท และวันนี้จะคืนเงินเป็นวันสุดท้าย แต่ต้องทำในเว็บไซต์ที่ทางสรรพากร จะส่งลิงก์ให้ หลังจากวันนี้ไม่ทำในระบบเว็บไซต์ของสรรพากร คุณจะต้องเสียภาษีปีละ 100,000 บาท ให้ทางสรรพากร

ซึ่งพฤติกรรมการพูดโน้มน้าว หลอกล่อจนเหยื่อตายใจ โดยทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งลิงก์เว็บไซต์มาทางไอดีไลน์ หลังจากโหลดพบว่า ขึ้นเป็นหน้าสรรพากร เหมือนของสรรพากรจริง แล้วให้เหยื่อโหลดแอปฯเว็บไซต์สรรพากรไว้ที่หน้าโทรศัพท์ แล้วส่งรหัสผ่านมาให้ เมื่อเหยื่อเข้าเว็บไซต์สรรพากรปลอม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ถามเหยื่อ ว่ามีแอปฯธนาคารกี่บัญชีในโทรศัพท์ จากนั้นให้เหยื่อเข้าไปดูแต่ละบัญชี เหมือนว่าระหว่างที่เข้าแต่ละบัญชี ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะรู้ว่า ในแต่ละบัญชีไหนที่มีเงิน ซึ่งทางเหยื่อมี 6 บัญชี ทุกบัญชีไม่มีเงิน มีแต่เพียง 1 บัญชีที่มีเงินอยู่สองพันกว่าบาท ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงบอกให้โอนเงินในบัญชีที่มีเงิน โอนไปยังบัญชีของคุณ อีกบัญชีหนึ่ง เพื่อให้ยอดบัญชีเหลือศูนย์บาท เหยื่อก็ยิ่งปักใจเชื่อ เพราะโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง คงไม่มีปัญหาอะไร

ซึ่งหลังจากโอนข้ามบัญชีไปอีกบัญชี ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เหยื่อกดตกลงในเว็บไซต์สรรพากรปลอม จากนั้นทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่า ให้รอสักครู่ทางสรรพากรจะโอนเงินภาษีคืนให้จำนวน 17,000 บาท จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์วางสายหายไป มาพบอีกที่เงินในบัญชีสูญหายไปหมด

ทำให้เหยื่อกลับมาตรวจสอบที่เว็บไซต์สรรพากรปลอม พบว่าเป็นเว็บไซต์สรรพากรปลอม โดยจะแตกต่างจากเว็บไซต์สรรพากรจริง อยู่ที่ดอทคอม จุดหรือขีด ที่จะมีความแตกต่างจากของจริง

ล่าสุดทางคุณ น.ส.ภัทราวดี ได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย นำหลังฐานไป ที่ธนาคารที่ตนเองโอนเงินไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ให้ข้อมูลว่า ทราบชื่อปลายทางแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องกลับไปเอาใบแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงรายมาก่อน แต่กับพบว่า ทางสภ.เมืองเชียงราย ไม่สามารถระบุว่าจะดำเนินคดีกับใครได้ เพราะมีแต่หลักฐานแชทผ่านไลน์เท่านั้นไม่มีตัวตน ทางเหยื่อก็ไม่สามารถนำใบแจ้งความไปยืนยันขอข้อมูลจากธนาคารได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง