คัดลอก URL แล้ว
พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายที่ 12 ของไทย

พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายที่ 12 ของไทย

KEY :

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยตรวจพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานรรายที่ 12 เป็นนักท่องเที่ยวเพศชาย อายุ 25 ปี สัญชาติโอมาน เดินทางมาจากประเทศโอมาน พร้อมแนะประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการไข้ มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย

วันนี้ (24 ตุลาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับรายงานพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายใหม่ 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวเพศชาย อายุ 25 ปี สัญชาติโอมาน เดินทางมาถึงประเทศไทยวันที่ 3 ต.ค. 65 และบินตรงมาถึงภูเก็ตวันที่ 4 ต.ค. 65 โดยเดินทางมากับเพื่อน 4 คน สอบถามข้อมูลเบื้องต้นที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต ผู้ป่วยมีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิง ไปร้านอาหารอาหรับ ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ ปฏิเสธเพศทางเลือก

ต่อมาวันที่ 11 ต.ค. 65 เริ่มมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ มีตุ่มหนองขึ้นตามลำตัว อวัยวะเพศ ขา และหน้าอก ต่อมาวันที่ 18 ต.ค. 65 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง จ.ภูเก็ต และทางโรงพยาบาลได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อที่ห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11/1 จ.ภูเก็ต ผลตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อ Monkeypox virus ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ไม่มีอาการ สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้ออยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

สถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ต.ค. 65) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรยืนยัน จำนวน 75,345 ราย พื้นที่การระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่

มีผู้เสียชีวิต 32 ราย จาก

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ประชาชนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีป้องกันโรคฝีดาษวานร คือการใช้ถุงยางอนามัย แม้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หลายโรค แต่ถุงยางอนามัยยังไม่สามารถป้องกันโรคฝีดาษวานรได้ เพราะการสัมผัสชิดเนื้อแนบเนื้อก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้

การป้องกันจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการไข้ มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสใกล้ชิดคนแปลกหน้าหรือไม่รู้ประวัติมาก่อน สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาด เลี่ยงการไปสถานที่แออัดหรือเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดโรคฝีดาษวานร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


ข่าวที่เกี่ยวข้อง