วันนี้(11 ต.ค. 2565) ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้งานดีแทค-ทรู ได้ยื่นหนังสือต่อ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยระบุว่า ตามที่มีข่าวว่าสภาองค์กรผู้บริโภคได้ออกมาคัดค้านการรวมธุรกิจแต่ก็ไม่ได้มีการถามความเห็นและความต้องการจริงๆ ของผู้บริโภคเลยนั้น เราในฐานะที่เป็นผู้ใช้บริการทรูและดีแทคตัวจริง หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้บริโภคตัวจริง ต้องออกมาแสดงจุดยืนเพื่อรักษาสิทธิ์ และส่งเสียงมาถึงกสทช โดยเราตัวแทนผู้บริโภคที่ใช้บริการทั้งเครือข่ายทรู และดีแทค ขอเรียกร้องให้ทางคณะกรรมการ กสทช. เร่งพิจารณากรณีควบรวมกิจการระหว่างทรู และดีแทค ให้เสร็จสิ้นในเร็ววันทั้งนี้เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมกับผู้บริโภค การพิจารณาของ กสทช. ยืดเยื้อล่าช้ามานานมาก ทั้งที่การรวมกิจการในโทรคมนาคมก่อนหน้ากว่า 9 รายก็มีตัวอย่างการดำเนินการอยู่ ทำไมกสทช จึงเลือกปฏิบัติ ซึ่งการพิจารณาที่ล่าช้าทำให้พวกเราผู้บริโภคเสียประโยชน์ ในหลายเรื่องดังนี้
- ลูกค้าดีแทคเสียโอกาสจากการได้ใช้ประโยชน์ จากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทรูมีอยู่ ทั้งเรื่อง เครือข่ายทรู 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อินเทอร์เน็ตบ้านทรูออนไลน์ เคเบิลทีวีทรูวิชั่นส์ และคอนเทนท์จากทรูไอดี รวมถึงจำนวนศูนย์บริการที่มีจำนวนมาก และสิทธิประโยชน์จากทรูยู รวมถึงการเข้าถึงบริการอื่นๆ ของทรูเช่น ทรูเฮลท์ ทรูมันนี่ ตลอดจนสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ได้จากการเป็นลูกค้าทรู
- ลูกค้าทรู เสียโอกาสจากการได้ใช้ประโยชน์จากสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น คลื่นความถี่ที่กว้างขึ้น ความต่อเนื่องสัญญาณที่จะทำให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น สิทธิประโยชน์จากการเป็นลูกค้าดีแทคที่มีจุดเด่นด้านราคาที่มีส่วนลดสูง และสิทธิพิเศษอื่นๆ นอกจากนี้ลูกค้าทรูยังเสียโอกาสที่จะได้ใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของเทเลนอร์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดีแทคเข้ามาพัฒนาบริการใหม่ๆ ทำให้มีความทันสมัยทันต่อการขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคมในภูมิภาค
- ลูกค้าทั้งดีแทคและทรูเสียโอกาสจากการที่ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันลงทุนเพื่อขยายเครือข่าย พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล
วันนี้ผู้ใช้บริการเดือดร้อน จากการทำงานของ กสทช ที่ล่าช้า กสทช.ชุดนี้ไม่สามารถจะมาอ้างว่าเพิ่งจะมาใหม่ และต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องต่างๆ รวมทั้งเรื่องกฏหมาย เนื่องจากคณะกรรมการชุดอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนเข้าออกตามวาระอยู่เสมอเป็นเรื่องปกติแต่ไม่ใช่ข้ออ้างว่าเมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แล้วจะสามารถทำงานล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดอันอาจถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ โดย กสทช. ชุดนี้เองก็สมัครใจเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว หากอ้างเช่นนี้ เราผู้ใช้บริการไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะมีเรื่องใดอีกที กสทช. จะปฏิบัติหน้าที่ล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดออกไปอีกโดยใช้ข้ออ้างเช่นนี้อีก
ที่สำคัญ กสทช. ไม่มีความชอบธรรมที่จะอ้างการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งล่าช้าแต่กลับส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ ที่ผ่านมามีการใช้เงินรัฐจ้างที่ปรึกษา และสอบถามกฤษฏีกา ก็ควรรีบดำเนินการเรามีความมั่นใจในกระบวนการคุมราคาค่าบริการ มาตรการป้องกันการผูกขาดการแข่งขัน และมาตรการแก้ไขเรื่องร้องเรียนของ กสทช. ที่มีอยู่แล้ว การมีคนอ้างว่าราคาจะสูงขึ้นนั้นเราเชื่อว่า กสทช. สามารถควบคุมได้ตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้า กสทช. ไม่ดำเนินการเราในฐานะผู้ใช้บริการก็จะดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิต่อไป
ทั้งนี้ เราขอเรียกร้องให้ กสทช ต้องออกมาแสดงความมั่นใจในกฎหมายที่ตนเองมีอยู่และมาชี้แจงต่อฝ่ายต่างๆ รวมทั้งสภาองค์กรผู้บริโภคที่มีการให้ข่าวขู่ผู้บริโภคเรื่องราคาจะสูงขึ้นถึงกว่า 200% ซึ่งสร้างแต่ความสับสนให้แก่ผู้บริโภคและไม่มีข้อเสนอที่จะคุ้มครองเราอย่างเป็นรูปธรรมเลย และขอยืนยันว่า พวกเราผู้บริโภค เห็นข้อดีมากมาย เห็นชัดเจนว่าการควบรวมครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าดีแทคและทรูจะได้ประโยชน์ทันที ไม่เสียประโยชน์แต่อย่างใด
“ความล่าช้าของ กสทช ความไม่ชัดเจน การเลือกปฏิบัติ การไม่ทำตามกฏหมาย ล้วนไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะ ขอให้หยุดอ้างคำว่าประโยชน์สาธารณะ และทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนของตัวท่านเองในฐานะ กสทช. องค์กรที่ต้องยึดถือการปฏิบัติตามกฎหมายและเพื่อป้องกันมิให้มีคนกล่าวหาได้ว่าท่านไม่ได้ยึดถือประโยชน์ของผู้บริโภคแต่มุ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งเพียงเท่านั้น”