KEY :
- วานนี้ อบต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จัดรถโรงหนังเฉลิมทัศน์ จอดฉายหนังให้แก่นักเรียน-ครู และประชาชนเป็นวันสุดท้าย
- หลังออกเดินทางไปใน 4 จังหวัดภาคกลาง ปทุมธานี นครนายก ลพบุรี และนครปฐม ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม – 23 กันยายน 2565
- เป็นรถโรงหนังคันแรกและคันเดียวในเอเชีย เป็นหนึ่งใน 15 คันในโลก
วานนี้ ( 23 กันยายน 2565 ) ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รถโรงหนังเฉลิมทัศน์ ได้จอดฉายหนังให้แก่นักเรียน-ครู และประชาชนเป็นวันสุดท้าย หลังออกเดินทางไปใน 4 จังหวัดภาคกลาง ปทุมธานี นครนายก ลพบุรี และนครปฐม ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม – 23 กันยายน 2565 โดยผู้เข้าชมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ คุณวุฒินันท์ แช่มช้อย เจ้าหน้าที่ หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) บอกกับทีมข่าวว่า ที่มาของรถคันนี้คือ เป็นของ หอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ชื่อว่า “รถโรงหนัง” เป็นรถเพื่อร่วมฉลองวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ อีกทั้งทรงพระราชทานนาม รถโรงหนังว่า “เฉลิมทัศน์” ทางหอภาพยนตร์ได้สั่งบริษัทที่ประเทศฝรั่งเศส ประกอบสร้างทั้งคัน ใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งเพื่อให้ทันแล้วเสร็จในวาระครบรอบ เมื่อรถโรงหนังเดินทางมาถึงประเทศไทย ก็ได้ถูกบันทึกแล้วว่า เป็นรถโรงหนังคันแรกและคันเดียวในเอเชีย เป็นหนึ่งใน 15 คันในโลกนี้ คือความพิเศษ
โดย คอนเซ็ปต์ของรถคันนี้ ทำหน้าที่เปรียบเสมือนอาวุธที่ติดปัญญา โดยจะวิ่งไปทั่วประเทศ แบ่งปีละ 4 ภาค ภาคละ 4 จังหวัด ทุกปี จุดที่รถโรงหนังเลือกไปจอด จุดนั้นจะไม่มีโรงภาพยนตร์ หรืออยู่ห่างไกลอย่างน้อย 20 30 และ 50 กิโลเมตา เพราะทางหอภาพยนต์เล็งเห็นว่าภาพยนตร์ ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงอย่างเดียว ถ้าเรารู้จักดู ดูให้ดีดูให้เป็นเราสามารถเรียนรู้ผ่านทางภาพยนตร์ได้ แล้วหนังควรที่จะดูในโรงหนัง แสงสีเสียงดี ๆ ที่นั่งดี แอร์เย็น ๆ จอใหญ่และเห็นความละเอียดชัดเจน
ซึ่งตามต่างจังหวัดบางตำบล บางอำเภอ ไม่มีโรงภาพยนต์ หรืออยู่ห่างไกลจากโรงภาพยนต์ และค่าตั๋วก็แพง เราเลยคิดว่าคงจะหากเรานำโรงหนังดี ๆ และภาพยนตร์ที่หลากหลายหอบไปกับรถโรงหนังพุ่งตรงเหมือนธนู จากส่วนกลางพุ่งทะยานไปสู่ในรอบ ๆ ทั่วประเทศ ตามตำบลรอบนอก อำเภอรอบนอก โดยหลักการคือ เช้าบ่าย รถโรงหนังจะแปลงร่างเป็นรถโรงหนังโรงเรียน ให้กับเด็กนักเรียนในชุมชนได้มาดู พร้อมคัดเลือกหนังที่หลากหลายให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กอันนี้สำคัญมาก เช่น ตอนประถมต้น ประถมปลาย ม.ต้น ม. ปลาย
แต่เมื่อดูหนังจบเราจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนตามคอนเซ็ปต์ เราคือภาพยนตร์ยังให้เกิดปัญญา โดยมีการซักถาม แนวชวนคุยมากกว่า ยกตัวอย่าง เช่น ตัวละครนั้นพูดแบบนี้หมายความว่าไง เขาทำแบบนี้หมายความยังไง ถ้าเป็นเรา เราจะแก้ปัญหาแบบนั้นยังไง เหมือนเรียนรู้ใช้ภาพยนตร์ เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ประมาณนั้น พอถึงช่วงเย็นโรงหนังก็จะเป็นรอบของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป โดยทริปนี้เป็นของจังหวัดภาคกลาง มีปทุมธานี นครนายก ลพบุรี และนครปฐม ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม – 23 กันยายน 2565 โดยช่วง เดือนพฤศจิกายนจะไป ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นหลังวันเด็กจะไป อีสานใต้ อุบลราชธานี – มุกดาหาร ทุกๆปีแต่ก่อนจะดำเนินไปเราต้องลงไปสำรวจพื้นที่ คุยกับโรงเรียนคุยกับชาวบ้าน และเครือข่ายต่างๆ ดูถนนรถเข้าได้ไหม ความปลอดภัย หลังจากนั้นค่อยๆทำจดหมาย วางโปรแกรม
คุณวุฒินันท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คุณวุฒินันท์ ฝากถึง เด็กและประชาชนว่า อยากให้รอคอยการมาของรถโรงหนัง จริงๆแล้วเราดำเนินงานมา 6-7 ปี ไปทั่วประเทศมาแล้วบางจังหวัดก็ไปมาสองรอบแล้ว แผนของเราเหลือแค่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ไปลำบากนิดหนึ่ง หวังว่าเราจะไปได้ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะมีคิวไปช่วงปีหน้า อยากให้ทุกคนติดตามข่าวสารจากเพจ รถโรงหนัง ว่าเราไปไหนบ้างมาให้กำลังใจกัน โดยบางครั้งเราอาจจะขับรถช้าเพราะรถคันใหญ่มาก ต้องขออภัยด้วย “อยากให้พี่ๆน้องๆทุกคนต้อนรับรถโรงหนังด้วย เพราะว่าเป็นภาษีของทุกคน ” ส่วนหนึ่งอยากให้เด็กดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ซึ่งใหญ่ในพื้นที่ ที่เราไป เด็กที่มาดูหนังจะเป็นการดูหนังในโรงเรื่องของพวกเขากัน
ภาพ – วิชาญโพธิ