คัดลอก URL แล้ว
แม่ใจจะขาด เสียลูกจากเหตุปืนลั่นในห้องเรียน

แม่ใจจะขาด เสียลูกจากเหตุปืนลั่นในห้องเรียน

“แม่น้องม.3 เหยื่อเพื่อนปืนลั่น เผยยังทำใจไม่ได้ ลั่นขอความยุติธรรมให้ลูกเพราะยังติดใจเรื่องคดี อยากให้มือปืนมาสารภาพความจริง ด้านกู้ภัยเล่าขณะถึงที่เกิดเหตุ น้องยังมีชีพจร “

ในรายการเจาะข่าวเด็ด The Day News Update Special ทางช่อง Mono 29 พิธีกร คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ร่วมพูดคุยกับคุณแม่ของน้องโชค ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุเพื่อนทำปืนลั่นใส่ในห้องเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ จนครูเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคีย์บอร์ระเบิด ซึ่งครอบครัวยังติดใจเรื่องคดี พร้อมฟังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเล่าสภาพที่เกิดเหตุ โดยคุณชัยรัตน์ คุณหิรัญ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รวมทั้งมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน ซึ่งดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการสพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ มาร่วมเปิดเผยแนวนโยบายในอนาคตว่าจะต้องปรับปรุงประเด็นใดบ้าง

พิธีกร : น้องโชคคือลูกชายคนเดียวของคุณแม่
แม่น้องโชค : ใช่ค่ะ คนเดียว อายุ 14 ปี

พิธีกร : น้องอยู่กับแม่ตั้งแต่เด็ก
แม่น้องโชค : แยกทางกับพ่อตั้งแต่แม่ท้องอ่อนๆ มีคุณยายคุณตาช่วยเลี้ยง

พิธีกร : น้องโชคมีนิสัยแบบไหน
แม่น้องโชค : อัธยาศัยดี พูดจาดี เพื่อนรัก ชอบทำกิจกรรม เป็นเด็กเจียมตัว ไม่ต้องใช้ของเหมือนคนอื่น ไม่ได้เรียกร้องอะไร

พิธีกร : คิดมั้ยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องโชค
แม่น้องโชค : ไม่มีใครคาดคิด เพราะลูกเราเรารู้ว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร กลับบ้านเองยังไม่เป็น มีตาเขยไปรับไปส่ง เพิ่งหัดกลับจากโรงเรียนเองได้ 2 วัน

พิธีกร : มีลางบอกเหตุอะไรมั้ย ว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้ขึ้น
แม่น้องโชค : ไม่มีเลยค่ะ คุณยายก็ไม่มี คืนก่อนหน้าเกิดเหตุน้องก็พูดคุยปกติ ตอนเช้าก็ปกติ

พิธีกร : ความผูกพันธ์ระหว่างคุณยายกับน้อง
แม่น้องโชค : ยายจัดตารางสอนให้น้องตลอด ยายกลัวว่าหลานจะหิ้วหนักเพราะเป็นเด็กผู้ชาย

พิธีกร : เพื่อนน้องโชคที่พกปืนไปคุณแม่รู้จักมั้ย
แม่น้องโชค : ไม่รู้จักค่ะ เพิ่งเห็นที่สน. ไม่รู้จักกันมาก่อน แม่จะรู้จักแค่เพื่อนลูกที่เคยไปเต้นทำกิจกรรมด้วยกัน

พิธีกร : พอคุณแม่เจอกับน้องคนที่พกปืนสภาพเป็นยังไงบ้าง
แม่น้องโชค : ตั้งใจหรือไม่ ไม่ทราบ แต่อยากให้หลักฐานยุติธรรมที่สุด ลูกเป็นความหวัง

พิธีกร : วันนี้ไม่มีน้องโชคแล้วคุณแม่
แม่น้องโชค : หัวใจแตกสลายหมดแล้ว คิดว่าจะส่งให้ลูกเรียนสูงที่สุด เพราะหนูเรียนไม่สูง ลูกอยากเป็นทหาร จบม. 3 ขอเรียนทหาร หนูดีใจที่ลูกมาบอกมาขอเอง ไม่คิดว่าจะเกิดความสูญเสียขนาดนี้ พูดอะไรไม่ได้เลย เห็นภาพลูกแล้วสงสาร

พิธีกร : ตอนเห็นศพน้องโชค วินาทีนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แม่น้องโชค : ไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่ เพราะลูกไม่อยู่แล้ว แต่ความยุติธรรมต้องมีให้ลูก อยากได้ความยุติธรรมที่สุด

พิธีกร : เดี๋ยวเราจะมีการพูดคุยกับเลขา สพฐ. คุณแม่อยากได้ความยุติธรรมยังไงให้พูดคุย คุณแม่สงสัยอะไรบ้างในเหตุการณ์ที่เกิดกับลูก
แม่น้องโชค : ตั้งแต่แรกที่บอกว่าคีย์บอร์ดระเบิด ยายโทรมาให้มาโรงเรียนด่วน บอกว่าเกิดอุบัติเหตุกับน้องโชคนิดหน่อย แล้วป้าตะโกนมาว่าปั๊มหัวใจอยู่ หนูทำอะไรไม่ถูกแล้ว เพิ่งออกกะมา เพิ่งได้นอน แล้วตอนบ่าย 2 รับโทรศัพท์ก็งง บอกนิดหน่อยทำไมปั๊มหัวใจ พอขับรถออกมาได้นิดนึงน้องก็แชทมาบอกว่าลูกหนูตายแล้ว น้องแชทมา อ่านข้อความพอดี รถเกือบชน ก็ตั้งสติเพื่อขับรถมาโรงเรียน พอมาก็เห็นรถนักข่าว รถกู้ภัย ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก จะเป็นเพราะคีย์บอร์ดเหรอ คอมใช้ 24 ชั่วโมงยังไม่เป็นอะไรเลย

พิธีกร : ตอนแรกได้ยินว่าคีย์บอร์ดระเบิด กำลังปั๊มหัวใจถูกมั้ย
แม่น้องโชค : ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ที่เห็นคือลูกไม่มีลมหายใจแล้ว ตอนไปเค้าคลุมผ้าแล้ว แต่ยายเห็นเลยเป็นลม หนูเค้าไปอีกทีตอนเค้ารวบรวมหลักฐาน เลือดถูกเช็ดไปบ้างแล้ว

พิธีกร : คุณแม่มารู้ตอนไหนว่าไม่ใช่คีย์บอร์ด แต่เป็นเพราะปืนที่ทำให้น้องโชคจากไป
แม่น้องโชค : คุณครูบอกว่าอย่าเพิ่งคิดว่าเป็นคีย์บอร์ด ป้าก็บอกว่ามีคนสารภาพแล้วว่าทำปืนลั่น เพิ่งรู้ตอนอยู่สน. ก็อึ้งไปเลย ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าใครทำ พอไปให้การก็ได้เห็นสำเนาบัตรประชาชนของน้องที่ก่อเหตุอายุมากกว่าน้องโชค 1 ปี อยากรู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่ปืนจะลั่นเหรอ

พิธีกร : แม่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่นถูกมั้ย
แม่น้องโชค : ใช่ค่ะ ไม่ได้สงสัยขนาดว่ามีเรื่องกัน ถึงลูกจะไม่ได้บอกว่าสนิทกับคนนี้ แต่รู้ว่าลูกเราไม่ได้มีปัญหากับใครอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ จากคำให้การเราก็ยังสับสน เราก็อยากรู้ บอกกับแม่ตรงๆก็ได้ว่าทำเพราะอะไร ตั้งใจหรือไม่ คุยกับแม่ ถ้าลูกคิดว่าเป็นเพื่อนโชคจริงๆจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต่อให้ไม่ใช่โชค ถ้าเป็นคนอื่นเค้าก็ต้องสูญเสียแบบหนู เหตุการณ์แบบนี้ไควรเกิดขึ้น ไม่ว่ากับใคร

พิธีกร : ตอนนี้ที่แม่รออยู่ที่โรงพยาบาล คุณหมอเกริ่นอะไรกับคูรแม่หรือยัง ในการเข้าไปชันสูตรน้อง
แม่น้องโชค : ยังเลยค่ะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ประสานงานกับเค้า เค้าบอกให้รอก่อน

พิธีกร : การเตรียมการหลังจากนี้คุณแม่จะดำเนินการยังไงต่อ
แม่น้องโชค : จะนำศพไปวัดราษฎร์ประคองธรรมเลย จะสวด 3 คืน เผสวันจันทร์ ต้องรอทางผู้ใหญ่ เพราะยังไม่รู้อะไรเลย

พิธีกร : คุณแม่อยากจะสื่อสารอะไรไปถึงผู้ปกครองที่มีลูกผู้ชายเหมือนกัน
แม่น้องโชค : อยากจะฝาก เข้าใจเด็กสมัยนี้ วัยนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต่อให้เราเลี้ยงลูกเราดีแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเด็ก อยากให้ผู้ปกครองสอดส่องดูแล บางทีลูกเราก็ไม่ได้มาบอกอะไรกับพ่อแม่เต็มที่ แต่บางคนกล้าบอก อย่างลูกหนูกล้าบอก ถ้าเป็นแบบนี้อาจเกิดการสูญเสียอีก และเหตุเกิดในโรงเรียนมันทรมานใจแม่ ไม่ปลอดภัยอะไรเลย

พิธีกร : หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้รับตอนกี่โมง
คุณชัยรัตน์ : ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.มีคุณครูในโรงเรียนสนิทคุ้นเคยกันมาก่อนก็โทรมาขอความช่วยเหลือบอกให้ช่วย บอกว่าเกิดเหตุระเบิกขึ้น คุณครูอาจจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ขณะที่เกิดเหตุ เป็นผู้ช่วยประสานงาน จากนั้นไม่เกิน 5 นาทีก็ไปถึง ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพของเทศบาลตำบลพิมลราชอยู่ที่เกิดเหตุแล้ว ก็พบน้องนอนคว่ำหน้าอยู่ ยังมีชีพจรอ่อนๆ ก็เริ่มทำCPR พบบาดแผลที่ใกล้ดวงตาก็ห้ามเลือด ระหว่างนั้นน้องก็เริ่มหยุดหายใจ เราก็ทำตามขั้นตอน

พิธีกร : ตอนไปถึงที่เค้าบอกว่าคีย์บอร์ดระเบิด คุณตูนรู้รึยังว่าจริงๆแล้วเกิดเหตุปืนลั่น
คุณชัยรัตน์ : แรกเริ่มไม่ทราบ เพราะคุณครูที่โทรมาแจ้งว่าคอมพิวเตอร์ระเบิด เข้าไปก็เห็นคีย์บอร์ดแตก เราเข้าไปก็ไม่ได้สนใจว่าเกิดจากอะไร เร่งทำการกู้ชีพก่อน แต่ยื้อไว้ไม่อยู่

พิธีกร : เลขาสพฐ.เหตุการณ์นี้มีข้อมูลอะไรเพิ่มจากโรงเรียน
ดร.อัมพร : ก็ตามข่าว เหตุเกิดในห้องคอมพิวเตอร์ เกิดเสียงระเบิดขึ้นแล้วเด็กบอกครูว่าคอมระเบิด เด็กเป็นคนให้ข้อมูล ทางครูก็พูดไปตามสิ่งที่เด็กบอก คุณครูก็อยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ด้วย ตอนแรกยังไม่เห็นปืนก็เข้าใจว่าคอมระเบิดตามที่เด็กบอก มารู้ว่าเป็นปืนตอนที่ตำรวจเรียกเด็กไปสอบ เด็กก็ยอมรับ แต่รายละเอียดอื่นต้องรอตำรวจสืบสวน

พิธีกร : เลขาสพฐ.มีอะไรอยากจะสื่อสารกับแม่น้องโชคถึงมาตรการหลังจากนี้ และการดูแลเป็นยังไง
ดร.อัมพร : เบื้องต้นเราดูแลการจัดการศึกษาก็ไม่อยากให้ใครได้รับอันตราย นโยบายรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว เมื่อเกิดขึ้นเราก็ต้องดูแลเรื่องกฎหมาย คิดว่าทางโรงเรียน ทางเขต รัฐมนตรีก็ห่วงในวันนี้ผมก็จะลงพื้นที่ จะดูวิธีการป้องกันเยียวยาเด็กๆ

พิธีกร : คุณแม่มีอะไรจะสื่อสารกับท่านเลขาสพฐ.
แม่น้องโชค : อยากได้รับความยุติธรรมให้ลูก แล้วก็ไม่อยากให้เกิดเคสแบบนี้ขึ้นอีก ความใฝ่ฝันทุกอย่างพังหมดแล้ว วันนี้ยังคิดว่าจะเดินไปยังไงเมื่อไม่มีลูก เข้าใจว่าเหตุเกิดแล้วก็อยากได้ความยุติธรรม
ดร.อัมพร : เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่ ไม่มีอะไรทดแทนการสูญเสียลูกไปได้ในฐานะที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องดูแลบนพื้นฐานของระเบียนราชการ มาตรการการดูแลความปลอดภัย ทุกวันนี้โรงเรียนเป็นบ้านหลังที่ 2 คิดว่าทุกวันนี้สังคมต้องช่วยกันทุกฝ่าย ต้องไปดูว่าอุปกรณ์ได้มายังไง อยู่บ้านพ่อแม่ต้องดูแลช่วยกัน ทุกส่วนต้องช่วยกัน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง