คัดลอก URL แล้ว
ต่อลมหายใจ  25 ปีร้านเช่าหนังสือ “เพื่อนยามยาก” สู่คาเฟ่ร้านเช่าหนังสือ

ต่อลมหายใจ 25 ปีร้านเช่าหนังสือ “เพื่อนยามยาก” สู่คาเฟ่ร้านเช่าหนังสือ

หากย้อนกลับไปในช่วงยุค 80-90 ร้านเช่าหนังสือ เปรียบดั่งแลนด์มาร์ค ริมถนนทุกเส้นสาย ทั้งบริเวณปากซอย สี่แยก ทางสามแพร่ง หรือหัวโค้งทำเลทอง ต้องมีร้านเช่าหนังสือตั้งอยู่ บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกระดาษที่เต็มไปด้วยคลาสสิค มีลูกค้าประจำมากมายแวะเวียนเข้า-ออก ร้านเช่าหนังสือ เพื่อเติมฝันวันหวานกับนิยายสุดโปรดและการ์ตูนยอดฮิต

แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิต ผู้คนจึงหันมาท่องโลกอินเตอร์เน็ตที่มีความสะดวกรวดเร็วในการหาข้อมูล พร้อมโลดแล่นไปกับโซเชียลมีเดียในแอพพลิเคชั่นต่างๆ หรืออ่านผ่านทางออนไลน์ แทนการอ่านหนังสือที่เคยได้รับความนิยม ส่วนกิจการร้านเช่าหนังสือต่างเริ่มค่อยๆ ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนเหลือน้อยเต็มที เช่นเดียวกับร้านเช่าหนังสือ “ เพื่อนยามยาก” ตั้งอยู่ริมถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ที่มีหนังสือเก่าหายากทั้งการ์ตูน และนวนิยาย อาทิ เพชรพระอุมา โดยพนมเทียน ชุมทางเขาชุมทอง โดย ส.อาสนจินดา ผู้ชนะสิบทิศ โดยยาขอบ บุปผาพญายม โดยเมืองลุง ก้าวแรกสู่สังเวียน คำสาปฟาโรห์ โคนัน จิ๋วพลังอึด Nine (การ์ตูนกีฬาแปลจากภาษาญี่ปุ่น) เป็นต้น

โดยมีเจ้าของร้านคือ คุณพิชัย มณีรัตนะพร หนังสือภายในร้านได้ถูกจัดวางไว้บนชั้นเหล็กฉาก เตรียมพร้อมด้วยการมัดหนังสือกว่าหมื่นเล่มรวมไว้ด้วยกันเพื่อขาย เพราะคนเช่าน้อยลง และไม่มีผู้ที่จะมาสานต่อ จำใจนับถอยหลังรอวันปิดร้าน แม้ความความตั้งใจเจตนารมย์จะเก็บรักษาไว้ให้กลุ่มเยาวชนคนรุ่นหลัง

เป็นช่วงเวลาเกือบเดือน ที่เจ้าของร้านได้คิดทบทวน ไตร่ตรองแล้วว่า หากจะขาย หนังสือที่ตัวเองรักและสะสมมากว่า 25 ปี แต่ด้วยความเป็นห่วงของการดูแลเก็บรักษาหนังสือทั้งหมด ซึ่ง ณ เวลานี้คุณพิชัยได้เปลี่ยนใจยกเลิกการขายกิจการร้านเช่าหนังสือของตัวเองทั้งหมดแล้ว สาเหตุแรงจูงใจ อะไรทำให้ยกเลิกการร้านเช่าหนังสือเราไปคุยกับเขาเลยครับ

คุณพิชัย บอกกับทีมข่าวว่า ประเด็นอยู่ที่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปการอ่านหนังสือคนเลือกอ่านหนังสือผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้ลูกค้าเราลดปริมาณ หากคิดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ น่าจะเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งปี 2560 พอลดลงมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ก็เหมือนกับหนังสือเราเป็นสต๊อก สินค้าอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่เราเองผูกผันรักหนังสือของเรากว่าจะเก็บหามาได้ขนาดเป็นพันเป็นหมื่นเล่ม ต้องใช้เวลามากพอสมควร คิดดูตั้งแต่ปี 2540 หนังสือบางเล่มบางทีมูลค่าหาไม่ได้แล้ว โรงพิมพ์ก็เลิกลากันไป คนเขียนบางคนก็จากไปแล้ว อย่าง พนมเทียน ทมยันตี เราก็มีความรู้สึกว่าของแบบนี้จะหาได้ที่ไหน หาไม่ได้แล้ว แต่ไม่มีใครสานต่อ จึงมีการติดต่อเสนอขายให้กับคนรู้จักเพราะเขาก็สนใจ เขาเห็นคุณค่าเลยขอซื้อ เราก็เตรียมการมัดหนังสือไว้หมดแล้ว แต่นิยายบางเล่มก็ไม่ให้นะเพราะรัก

หลังจากนั้นมีสื่อออนไลน์ได้มาพูดคุยให้คำแนะนำ เหมือนจุดประกายให้มีแนวคิดที่ทำคาเฟ่ แต่จริงๆ แล้วเรื่องคาเฟ่ คิดจะทำอยู่แล้ว แต่เป็นเพียงความคิดเราคนเดียว ซึ่งทุกคนในครอบครัวไม่เห็นด้วยกับเรา ก็รู้สึกว่ามันก็ซัฟเฟอร์นะ ก็ช่างเขาเถอะ ไม่อยากมองมาก เดี๋ยวไม่สบายใจ พอมีคนจุดประกายบวกกับร้านกาแฟใกล้ก็เชียร์ ว่าทำคาเฟ่ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ภายในร้าน มีเสน่ห์อยู่แล้ว เพียงแต่จัดให้ดูดี เช่น ประตูหน้าร้าน หากเราปิดประตูไม้ก็มีคนแวะเวียนมาถ่ายรูปอยู่เป็นประจำด้วยความคลาสสิค แม้ประตูโกดังก็ยังมีคนถ่าย จึงบอกคนในครอบครัวว่าขอป๊าลองสักสามเดือนนะเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรกัน

ซึ่งเรา “ จะทำอย่างไรให้ในสิ่งที่ตัวเองรักและผูกพัน เดินทางคู่ขนานไปกับยุคโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน “ เลยมาจบที่ทำร้านเช่าหนังสือมีคาเฟ่ด้วย อาจจะมีกาแฟแคปซูล และ กาแฟดริป ลูกค้าได้นั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟไปด้วยกันได้พอดี ส่วนเรื่องชื่อคิดไว้ว่าเป็น “Smelly book by เพื่อนยามยาก” ประมาณนี้ก่อน

ทำให้ต้องปรับตามยุคสมัย หนังสือมันมีคุณค่าด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าคนที่เห็นคุณค่าเนี่ย คือเรามาแมทกันได้ มันก็ยังคงอยู่ เกิดประโยชน์ทั้งคู่ ไม่สูญสลายไป ถ้าขายทิ้งไปมันก็เหมือนเศษกระดาษ แต่เราทั้งรักและผูกพัน เพราะหนังสือมันจับต้องได้ สิ่งที่จับต้องได้คิดว่ามันจะมีคุณค่าสำหรับคน ทุกยุคทุกสมัยคุณพิชัยกล่าว

สุดท้ายคุณพิชัย ยังบอกอีกว่า อยากให้คนที่สนใจรักหนังสือ และอยากให้ธุรกิจนี้ยังคงอยู่ ขอโอกาศช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมแนะนำกันมาได้ หรืออยากให้ปรับปรุงแก้ไขยังไงถูกใจในสายตาคนทั่วๆไป คอมเมนต์กันมาได้เพราะเราคนเดียวความคิดมุมมองการปรับเปลี่ยนอาจจะไม่หลายหลาก

สำหรับหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดและประทับใจของคุณพิชัย นอกจาก “cobra” แล้วยังมี “ต้องรอด” เพราะเรื่องนี้มันเป็นการสอนให้เรารู้จักเอาตัวรอดในช่วงวิกฤตและหาทางแก้ในสภาวะคับขันได้ครับ คุณพิชัยกล่าวทิ้งท้าย


ภาพ – วิชาญ โพธิ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง