คัดลอก URL แล้ว
แก๊งจีนโหด หลอกทำงานในฟิลิปปินส์ ซ้อมเหยื่อปางตาย

แก๊งจีนโหด หลอกทำงานในฟิลิปปินส์ ซ้อมเหยื่อปางตาย

“เหยื่อแก๊งจีนโหด เผยหลงเชื่อโฆษณาหางานออนไลน์ไปทำงานฟิลิปปินส์ ถูกบังคับหลอกคนไทย หากทำไม่ได้ถูกซ้อมทรมาน ขณะมูลนิธิปวีณาเผยสถิติเหยื่อร้องทุกข์ให้ช่วยเฉพาะปีนี้กว่า 4,000 ราย“

ในรายการเจาะข่าวเด็ด The Day News Update Special ทางช่อง Mono 29 พิธีกร คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ได้พูดคุยกับเหยื่อ 2 ราย ที่มาเปิดใจหลังถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่กลับถูกแก๊งจีนโหด บังคับให้หลอกลวงคนไทยให้หลงรักก่อนจะชวนลงทุน บังคับให้ต้องทำยอดเดือนละ 1.5 แสนบาท หากทำไม่ได้จะถูกซ้อมทรมานปางตาย เหยื่อทนไม่ไหวให้ญาติส่งเงินไปไถ่ตัวกลับไทย พร้อมพูดคุยกับคุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณีการเข้ามาให้ความช่วยเหลือเหยื่อในครั้งนี้

พิธีกร : ตอนเดินทางกลับมาประเทศไทยทำไมถึงเลือกไปหามูลนิธิปวีณานะครับ
ส้ม : ตอนแรกพี่สาวไปปรึกษาท่านก่อนค่ะ ให้ท่านช่วย แล้วก็หลังจากที่กลับมาก็คืออยากเข้าไปหาท่านเพื่อให้ท่านช่วยเพื่อนที่เหลือที่ติดอยู่

พิธีกร : เป็นเพื่อนในเมืองไทยแล้วไปพร้อมกันหรือยังไง
ส้ม : ไม่ได้ไปพร้อมกันค่ะ มีทั้งไปพร้อมกันแล้วก็ไปเจอกันที่นั่น แต่ก็ติดอยู่ในห้องนั้นด้วยกัน

พิธีกร : ทำไมเค้าถึงกลับมาไม่ได้แบบพวกเราครับ
ส้ม : เพราะเค้าหาเงินไม่ได้ ญาติไม่มีเงิน

พิธีกร : ให้ญาติต้องโอนเงินไปให้จำนวน 1 แสนบาท ต่อ 1 คน
ส้ม : ใช่ครับ

พิธีกร : แล้วที่ถูกขัง ถูกทรมานอยู่นั้น 11 คนถูกไหม
ส้ม : 11 คนครับ

พิธีกร : มีรอดกลับมา ยอมจ่ายเงินกี่คน
ส้ม : รุ่นที่มารอบแรก 1 คน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ตอนนี้ อีก 5 คนก็คือมาพร้อมกัน

พิธีกร : เพราะฉะนั้นที่กลับมาด้วยกันจ่ายเงินไถ่ชีวิต 6 คน 6 แสนบาทแล้วใช่ไหมครับ พี่สาวก็เลยมามูลนิธิปวีณาหวังว่าจะช่วยเหลือคนที่ยังติดอยู่ที่นั่น คุณปวีณาครับได้เห็นกรณีแบบนี้ เจอเยอะไหมครับในสังคม
ปวีณา : เยอะค่ะเพราะมูลนิธิก่อตั้งมา 23 ปีแล้วนะคะ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำร้ายร่างกาย แต่ช่วงทำร้ายร่างกายจะเป็นสมัย 20 ปีที่แล้วที่มาเลเซีย ถูกหลอกไปค้าประเวณี ค้ามนุษย์ตอนนั้น ถึงกับเฆี่ยนตี อุ้มหายเลย แต่ปัจจุบันก็มีบ้างประปรายแต่ก็ไม่ถึงขนาดนี้ อาจจะอดข้าวอดน้ำต่างๆ แต่กรณีนี้มันทารุณมาก

พิธีกร : สถิติการร้องเรียนเข้ามาเป็นยังไงบ้างครับ
ปวีณา : ถ้า 22-23 ปีที่ผ่านมา เราเก็บสถิติตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบันก็ 160,000 กว่ารายแล้ว แต่ถ้าในปีนี้มีคนร้องทุกข์มาทั้งหมด 4,000 กว่าราย เป็นเรื่อง 13 ปัญหาชาติเลย ข่มขืน ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี และทารุณกรรม เรื่องค้ามนุษย์จริงๆ แล้วช่วง 2 ปีที่ผ่านมาติดโควิดประเทศก็ปิด ตัวเลขก็ลดน้อยลง แต่ตอนนี้ทุกประเทศกำลังเปิดประเทศก็เลยมีการเคลื่อนไหวในการแรงงานผิดกฎหมายบ้าง ค้ามนุษย์บ้าง ตอนนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นปรากฏว่าที่ประเทศดูไบเยอะขึ้น ถูกหลอกไปค้าประเวณีตั้ง 48 คนที่มาร้องทุกข์กับมูลนิธิ ส่วนฟิลิปปินส์ก็มี 7 รายที่มาขอความช่วยเหลือ และคอลเซ็นเตอร์ 60 กว่าราย ที่เราประสานกับพลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.

พิธีกร : เอาล่ะตอนนี้ สิ่งที่ต้องช่วยเหลือก็คือต้องเอาคนที่ยังถูกกักขังอยู่ที่นั่นให้ปลอดภัย
ปวีณา : วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่สาวของน้องฟ้า(เหยื่อ) มาที่มูลนิธิปวีณาบอกว่าขอให้ช่วยเหลือน้องฟ้า ตอนนั้นยังไม่กลับ ขอให้ช่วยเหลือน้อง แล้วก็ทั้งหมดทุกคนด้วยที่ถูกทรมานอยู่ ดิฉันก็ประสานกับอธิบดีกรมการกงสุลทันทีนะคะ แล้วก็วันรุ่งขึ้นวันที่ 25 สิงหาคม ก็ให้เจ้าหน้าที่พาไปร้องทุกข์ที่กรมการกงสุลที่ประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ คุ้มครองดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หลังจากนั้นวันที่ 26 สิงหาคม น้องทนไม่ได้แล้ว เพราะว่ามีการคาดโทษไว้ว่าจะต้องโอนเงินภายในวันนี้ พี่สาวก็เลยโอนเงินไป 2 คน ส่วนอีก 3 คนก็มีญาติโอนเงินไป ก็เลยได้กลับมาวันที่ 27 สิงหาคมตอน 4 ทุ่ม พี่สาวก็พามา รู้สึกสงสารมากเลย เพราะฟังแล้วรับไม่ได้เลย ดิฉันก็พาทุกคนไปพบท่านอธิบดีกรมการกงสุล ท่านบอกว่าอีก 3 คนที่เหลือที่ไม่มีเงินจ่าย ได้ประสานไปยังสถานทูตแล้วก็ช่วยเหลือออกมาได้แล้ว และก็ปลอดภัย แต่เขาเครียดมาก ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 คนยังอยู่ที่นั่นเพราะรอสอบปากคำของ ตม.ของฟิลิปปินส์และตำรวจฟิลิปปินส์

พิธีกร : เบื้องต้นในการช่วยเหลือ 11 คนตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ปลอดภัยหมดแล้ว แต่ไม่ได้มีแค่ 11 คนนะครับ ที่นั่นมีอีกหลาย 10 คนทีเดียว เดี๋ยวจะมาไล่เรียงกันเริ่มจากน้องส้มกับน้องฟ้าซึ่งเป็นเหยื่อ อยากจะหางานทำ ตกงานอยู่เหรอครับตอนนั้น
ส้ม : ตอนนั้นก็ไม่ได้ตกงานครับ เพียงแค่อยากหางานที่มีรายได้มากกว่าเดิม จึงไปเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ต

พิธีกร : เสิร์ชคำว่าอะไรนะครับ
ส้ม : หางานต่างประเทศ

พิธีกร : พอเห็นแล้วโปรไฟล์เขาน่าเชื่อถือแค่ไหนบริษัทนี้
ส้ม : ก็ลองทักไปสอบถามดูก่อนครับ เขาก็บอกว่างานถูกต้องตามกฎหมาย ตอบแชทแอดมิน ก็นัดคุยกันครับ เขาให้ส่งเอกสารให้

พิธีกร : อะไรที่ทำให้เราหลงเชื่อว่าน่าจะไปได้จริงๆ
ฟ้า : เขาบอกว่าเดินทางฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าเราไม่มีพาสปอร์ตเขาก็จะทำให้ฟรี จองโรงแรมให้ฟรี บินฟรี ทุกอย่างฟรีหมด ก็คุยกับเขาถามจนมั่นใจค่ะถึงได้ตัดสินใจ
ส้ม : เขาบอกว่าคนไทยอยู่ที่นั่นเยอะ งานก็ถูกต้องตามกฏหมาย เขาเอาชีวิตรับประกัน เขาบอกแบบนี้

พิธีกร : เงินเดือนเป็นยังไง
ส้ม : เงินเดือนก็บอกว่าเริ่มต้นที่ 25,000 – 35,000 บาท แล้วก็มีค่าคอมมิชชั่นให้ต่างหาก ค่าเบี้ยขยันต่างหาก รวมแล้วน่าจะเดือนละ 40,000 เกือบ 50,000บาท

พิธีกร : ตอนนั้นที่เห็นตัวเลขรายได้แบบนี้ การเดินทางฟรี ทุกอย่างฟรีหมดเลย ความรู้สึกของเราเชื่อเลยไหม
ฟ้า : ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อเท่าไหร่ ก็ยังถามไปเรื่อยๆ จนมั่นใจว่ามีคนไทยอยู่จริง เขาก็คุยส่งข้อความมาหาเรา บอกว่าไปเถอะเพื่ออนาคต เพื่อชีวิตที่ดี เขาพูดกับเราแบบนี้

พิธีกร : พี่คนนี้เขามีชื่อว่า ตอนที่ติดต่อกันคือ?
ฟ้า : เขาชื่อเจมส์ค่ะ

พิธีกร : คุยกันนานแค่ไหนครับ
ส้ม : ประมาณ 1 อาทิตย์

พิธีกร : แล้วคุณเจมส์คนนี้ก็อยู่ในกระบวนการส่งเราไปทำงานที่ฟิลิปปินส์ เขาเดินทางไปส่งเราเลยไหมหรือว่ายังไง
ฟ้า : ไปส่งที่สนามบินค่ะ

พิธีกร : ออกค่าตั๋วให้ ฟรีจริงไหม
ส้ม/ฟ้า : จริงค่ะ

พิธีกร : เดินทางฟรี แล้วก็อะไรอีก
ส้ม/ฟ้า : ฟรีทุกอย่าง ซื้อข้าว ซื้ออะไรให้กิน วีซ่า พาสปอร์ตพาไปทำ ออกตอนนั้นเลยถ้าเราไม่มี พาไปทำก่อนเดินทาง ไม่ต้องเสียเงินเลย

พิธีกร : เดินทางไปตอนนั้นรอบนั้นกี่คน
ส้ม : รอบแรกไป 3 คนครับ
ฟ้า : แล้วก็ไปอีก 5 คน คนละรอบ ต่อจากกัน 3 วัน

พิธีกร : สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เขาบอกว่าจะไปทำงานแบบนี้ๆ ใช่ไหม
ส้ม : ไม่ใช่ครับ เขาบอกว่าให้เราไปตอบแชทแอดมิน พอเราไปถึงแล้วมันไม่ใช่งานตอบแชท มันก็คืองานหลอกให้คนไทยร่วมลงทุน

พิธีกร : พอไปถึงเขาบอกเลยเหรอว่า น้องๆ ต้องมาทำงานหลอกให้คนร่วมลงทุน โรแมนซ์สแกมแบบนี้
ส้ม : ยังครับ 7 วันแรกให้เรียนรู้ก่อน

พิธีกร : ไปรู้ตอนไหนว่า เราต้องทำงานหลอกคนไทยด้วยกัน
ส้ม : ประมาณอาทิตย์ที่ 2 ช่วงอาทิตย์แรกเขาก็สอนให้เรารู้จักแอปพลิเคชั่น ให้โหลดแอปฯ ให้สร้างตัวตน สร้างอวตาร

พิธีกร : แล้วโปรไฟล์ของผู้ชายที่เราจะต้องไปเป็นตัวแทนนั้นล่ะ
ส้ม : เขาจะเลือกให้ครับ

พิธีกร : เขามีโปรไฟล์ไว้หมดแล้ว ให้เราทำการศึกษาโปรไฟล์ของผู้ชายคนนั้นจะได้ตอบคำถามแล้วเหมือนกับเป็นผู้ชายคนนั้น
ฟ้า : ใช่ค่ะ ให้เราสร้างประวัติ สร้างทุกอย่าง แล้วก็ให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับสิงคโปร์ เพื่อเราจะได้ตอบลูกค้าได้ถูกต้องเหมือนกับว่าเราอยู่ที่นี่จริงๆ

พิธีกร : แล้วเราทำได้ไหม สัปดาห์แรก
ส้ม : ทำไม่ได้ครับ แค่โหลดแอปฯ ทำอะไรได้ แต่ว่าเริ่มคุย คือคุยไม่ได้ครับ เราหลอกไม่ได้ อาทิตย์ที่ 2 เริ่มให้เราหลอก

พิธีกร : เมื่อหลอกไม่ได้เขาว่ายังไงบ้าง
ฟ้า : เขาก็บอกเราว่าต้องทำให้ได้นะ หลังจากนั้นเขาก็เรียกเราออกไปให้เราไปคุยว่าเขาไม่จ้างเราแล้ว เขาก็บอกว่ามีข้อเสนอให้ 2 ข้อ ข้อแรกคือหาเงินมาไถ่ตัวเอง / 2 คือหาคนมาซื้อต่อไปทำงานที่อื่น หาเงินมาไถ่ตัวเองตอนนั้นที่เค้าบอกคือ 92,000 บาทคือค่าตัว อีก 8,000 บาทคือค่าตั๋วที่จะบินกลับมาประเทศไทย ถ้าจ่ายได้เขาให้กลับมาเลย และถ้าหาไม่ได้ก็ให้หาคนมาซื้อตัวเราไปทำงานที่อื่น แล้วก็ยึดโทรศัพท์เราไปเลย

พิธีกร : แล้วจะติดต่อใครยังไงล่ะ
ส้ม : เขาก็จะเอามาให้โทรเป็นเวลาครับ พอเอาโทรศัพท์มาเขาก็จะให้โทรหาญาติ ว่าต้องหาเงิน 100,000 บาทนะ เพื่อที่จะมาไถ่ตัวเรา
ฟ้า : แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเขาจะฟังอยู่ด้วย เขาจะมีล่ามแปลให้เขาฟังว่าเราพูดอะไรบ้าง

พิธีกร : เขานั่งอยู่ติดกับเราแบบนี้เลยเหรอ แล้วเราจะนอนยังไง อาบน้ำยังไง
ฟ้า : ไม่ได้อาบน้ำเลยค่ะ อยู่ในสายตาเขาตลอด แล้วเขาก็ใส่กุญแจมือเราไว้

พิธีกร : แล้วเค้าทรมานแบบไหนยังไงครับ
ฟ้า : เขาก็เรียกไปซ้อมทีละคน

พิธีกร : เรียกไปซ้อม ซ้อมตอนไหน ซ้อมยังไง
ส้ม : ตอนที่จับวันแรกคือเขาจับได้ว่าเราแอบมีโทรศัพท์ไว้ 1 เครื่อง เขาก็เรียกไป พอดีมีภาพของบริษัทหลุดออกไปในเพจของกลุ่มคนไทยในฟิลิปปินส์ พวกเราไม่ใช่คนถ่ายแล้วก็ไม่รู้ว่าใครถ่ายออกไป แต่เขาคิดว่าเป็นพวกเราถ่าย แล้วเขาก็โมโห ให้เรายอมรับว่าเราเป็นคนทำ แล้วก็ซ้อม

พิธีกร : ตอนนั้นเขามีกี่คน แล้วเรามีกี่คน
ส้ม : เขามี 2 คนครับเป็นผู้ชายคนจีน แล้วเราคนเดียว ก็คือซ้อมจนสลบ ทั้งเตะ ทั้งใช้สายไฟ ใช้เข็มขัดฟาด

พิธีกร : ได้ข่าวว่าส้มโดนหนักเลย
ส้ม : ใช่ครับ คิดว่าตัวเองตายแล้ว แล้วก็สลบไปเขาก็เอาเราไปกดในห้องน้ำ ฟื้นขึ้นมาเขาก็ซ้อมต่ออีก

พิธีกร : ถ้าหาคนมาซื้อตัวไปทำงานต่อไม่ได้หรือโทรแล้วยังไม่มีเงินมาไถ่ตัวเขาจะทำอะไร
ส้ม : ก็จะใช้ไฟฟ้าช็อต เป็นกระบองไฟฟ้าครับช็อตตามตัวเลยครับ

พิธีกร : ตอนช็อตรู้สึกยังไง
ส้ม : มันจะรู้สึกปวดตรงกระดูก เหมือนไฟดูดเลยครับ

พิธีกร : ช็อตนานไหมครับ
ส้ม : เอาจี้ไว้สักพักหนึ่ง จนกระทั่งเราสั่น ชักอยู่ตรงนั้น นั่งร้องอยู่ตรงนั้นเลยครับ

พิธีกร : พอโดนช็อตตรงนี้แล้วรู้สึกยังไง
ส้ม : กลัวไปหมดเลยครับ

พิธีกร : มาถึงก็ช็อตเลยเหรอ
ส้ม : ถ้าเขาฟังแล้ว ล่ามแปลให้เขาฟังว่าจะไม่ได้เงินจากคนที่เราโทรหาแล้ว เขาก็จะช็อตเลย แล้วเขาก็จะบอกว่า คิดสิจะทำยังไงถึงจะได้เงิน โดนเตะปลายคาง เตะหน้า เสยตามตัวด้วย ตอนที่โดนแรกๆ คือหน้าแตกหมด ปากแตกหมดเลยครับ หนักที่สุดคือเตะจนสลบ สองคนช่วยกัน แล้วเขาก็ลากเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็เอาหัวเราไปกดน้ำ ให้เราฟื้นขึ้นมาแล้วก็เตะต่อ

พิธีกร : น้องฟ้าโดนอะไรบ้างครับ
ฟ้า : โดนเขาให้ไปแก้ผ้าแล้วก็ถ่ายคลิปวีดีโอ ให้เราแก้ผ้าให้หมด เหมือนกับเอาไว้แบล็คเมล์เรา ไม่ให้เรากลับมาทำอะไรแบบนี้ เขาบอกว่าถ้าเรากลับมาได้ห้ามติดต่อญาติ ห้ามแจ้งใครทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยคลิปตามโซเชียล
ส้ม : โดนถ่ายคลิปทุกคนครับ ทั้ง 11 คนโดนถ่ายหมดทุกคน ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนตายไปแล้วเลยครับ ไม่คิดว่าตัวเองจะฟื้นขึ้นมา คือโดนหนักมากเลยครับ คิดว่ายังไงก็ไม่รอด ต้องตายตรงนั้นเลย อธิบายไม่ถูก กลัวมาก

พิธีกร : น้องส้มนี่โดนหนักสุดเลยไหม
ฟ้า : หนักสุดเลยค่ะ เพราะว่าหนูอยู่ในห้องหนูได้ยินเสียงร้องเหมือนหมูโดนเชือด แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ ทุกคนในห้องที่เหลืออยู่ก็กลัวกันหมดเลย หวาดระแวงมาก ว่าเมื่อไหร่เขาจะออกมาเรียก แล้วเขาก็มาเรียกไปทีละคน เข้าไปทรมาณในห้องนั้น โดนประมาณ 4 คนค่ะ

พิธีกร : แล้วสุดท้ายก็ต้องยอมติดต่อพี่สาวให้โอนเงิน
ฟ้า : พี่สาวก็พยายามไปติดต่อทางมูลนิธิให้ช่วย แต่ดูแล้วน้องไม่รอดแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจโอนเงินให้ เพราะว่าวันนั้นเขาขีดเส้นตายว่าถ้าไม่ได้ภายในเที่ยงทุกคนจะไม่รอด

พิธีกร : แล้วบอกพี่สาวไหมว่าเราโดนทำอะไรบ้าง
ฟ้า : ไม่ได้บอกค่ะ บอกไม่ได้ พูดได้แค่ว่าให้โอนเงินให้หน่อย ได้หรือยัง แค่นั้นค่ะ เพราะว่าเขามีล่ามแปลภาษาฟัง

พิธีกร : ล่ามคนนั้นคือคนไทยหรือว่า?
ฟ้า : คนไทยค่ะ

พิธีกร : คนไทยด้วยกัน เห็นพวกเราอยู่ในสายตาบ้างไหม
ส้ม : เห็นครับ ตอนที่ซ้อมก็มีคนไทยเห็นครับ
ฟ้า : มีหัวหน้าคนไทยด้วยค่ะ ซึ่งคนนี้เป็นคนแปลให้เขาฟัง

พิธีกร : หัวหน้าคนไทยทำหน้าที่อะไรครับ
ส้ม : สอนงานทุกอย่าง สอนวิธีการที่ต้องคุยกับลูกค้าว่าลงทุนแบบไหน ให้เราไปตอบลูกค้า ให้ไปหลอกคนไทยด้วยกัน

พิธีกร : ตอนแรกเราหวังว่าจะไปทำงานดีดีรายได้ดีๆ เงินเดือน 2-3 หมื่นบาท โบนัสอีก 4 หมื่นบาท ตอนไปเห็นอาคารเขารู้สึกว่าอาคารโอ่โถงเลย
ฟ้า : รู้สึกว่าปลอดภัยเหมือนจะถูกกฎหมาย เราก็คิดว่ามันเปิดเผยอยู่นะ แต่พอเข้าไปแล้วเหมือนนรกเลย นั่งอยู่ในห้อง

พิธีกร : เป็นห้องแล้วมีคอมพิวเตอร์ให้ทำงานกับทุกคนเลย ได้คุยกันบ้างไหมกับคนอื่น
ส้ม : ไม่ได้คุยครับ ต้องก้มหน้าทำงานอย่างเดียว
ฟ้า : ทำตลอดเวลาเลย เพราะวันนึงต้องหาลูกค้าให้ได้ 8 คนทุกวัน

พิธีกร : เราก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากทำงานนี้แล้ว แล้วบอกเขาว่ายังไง
ส้ม : ไม่ได้บอกครับ แต่เขาก็เห็นแล้วว่าเราทำไม่ได้ คงจะดูออกว่าเราทำไม่ได้ เขาบอกว่าเราไม่มีความสามารถในการทำงานตรงนี้
ฟ้า : ไม่อยากทำ ไม่อยากหลอกคนไทยด้วยกัน นอนร้องไห้อยากกลับบ้านแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ก็ปรึกษากันกับคนไทย แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร ได้แต่แอบไปคุยกันตอนเลิกงาน

พิธีกร : ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะเจอแบบนี้เลย
ส้ม : ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยครับคิดว่าตัวเองตายไปแล้วด้วยซ้ำ
ฟ้า : ร้องไห้ทุกวันคิดว่าคงไม่ได้กลับมาแล้ว พอได้กลับมาเหมือนได้เกิดใหม่

พิธีกร : คุณปวีณาเห็นสภาพเด็กๆ กลับมาตอนนั้นรู้สึกยังไง
ปวีณา : ตกใจค่ะ ไม่นึกว่าจะเลวร้ายขนาดนี้ ซึ่งเขาก็โชคดีมากที่เขารอดมาได้ แล้วเราก็รีบพาเค้าไปพบอธิบดีกรมการกงสุล ก็มาดูแล้วเขาก็เร่งช่วยอีก 3 คนอยู่ในความดูแลของสถานทูต ซึ่งขณะนี้เราก็ต้องการที่จะประชาสัมพันธ์ เราก็คุยกับท่านอธิบดีว่าเราต้องการที่จะเห็นทุกคนได้ตระหนักว่าการไปต่างประเทศไม่ใช่ว่าจะไปขุดทองหรือว่าจะได้เงิน เพราะสุดท้ายก็โดนหลอกแล้วยังเป็นหนี้อีก ส่วนเรื่องของการดำเนินคดีคนไทยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ ขณะนี้ดิฉันได้ประสานกับท่านผู้บังคับการ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการกองบังคับการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ท่านก็ประสานไปยังหน่วยงานชุดสืบสวน ดีเอสไอด้วย ซึ่งจะมีการประชุมกันในวัน 5 กันยายนนี้ที่มูลนิธิปวีณา ก็น่าจะมีข้อสรุป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องขยายผลด้วย ทั้งคนไทยที่เป็นล่ามในกระบวนการ ซึ่งทางสถานทูตได้แจ้งตำรวจที่ฟิลิปปินส์แล้ว ทางตำรวจฟิลิปปินส์ก็จะต้องขยายผลในส่วนของเขา ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ทุกคนตระหนักว่า หากต้องการจะไปทำงานต่างประเทศจริงๆ ควรจะต้องไปประสานกับกรมการจัดหางานที่กระทรวงแรงงานทุกจังหวัด

พิธีกร : อยากพูดอะไรกับหัวหน้าคนงานที่เป็นคนไทยที่นั่น เขาบอกอะไรเราตอนที่อยากให้เราทำงานให้เขา
ส้ม : ขายฝันให้เรา
ฟ้า : เหมือนว่าถ้าทำแล้วจะได้จริงๆ นะ สามารถมีบ้าน มีรถ มีเงินกลับไปให้พ่อแม่ได้

พิธีกร : เราอยากจะบอกอะไรเขา
ส้ม : ก็อยากจะบอกว่าให้หยุดนะครับ ให้สงสารคนไทยด้วยกันครับ ไม่อยากให้มาหลอกลวงกันโดยวิธีนี้ครับ

พิธีกร : ในจิตใต้สำนึกของบอสคนนี้มีความสงสารที่เขาไปหลอกบ้างไหม
ส้ม : ไม่น่าจะมีครับดูแล้ว
ฟ้า : เขาบอกว่ามันเป็นงาน ก็อยากจะบอกคนที่พาเราไปทำงานว่า ให้เปลี่ยนใจนะคะ เราก็คนไทยเหมือนกันอย่ามาหลอกกันเลย หาอาชีพที่มันสุจริตธรรมดีกว่าค่ะ และก็อยากให้เขาออกมารับสารภาพให้มาสาวต่อคนที่เป็นคนต้นเรื่องจริงๆ
ส้ม : ก็อยากให้เขาหยุด หยุดในสิ่งที่เขากำลังเชิญชวนคนไทยไปทำงาน ไม่อยากด่าแต่อยากให้เขาคิดได้มากกว่า อยากให้เขาหยุดมากกว่า ไม่อยากให้มีคนโดนหลอกไปมากกว่านี้ครับ เพราะชีวิตตอนที่อยู่ตรงนั้นมันเหมือนตายทั้งเป็นครับ

พิธีกร : ยังกลัวอยู่ไหม
ส้ม : กลัวครับ ก่อนหน้านั้นเดินไปไหนมองซ้าย ขวา กลัวเขาจะทำอะไร
ฟ้า : ได้ยินเสียงดัง เสียงประตูก็หลอนเลยค่ะ

พิธีกร : ถือว่าวันนี้เป็นประสบการณ์นะครับคุณผู้ชม แล้วใครจะไปค้นหางาน อย่าไปค้นหางานออนไลน์ ให้ไปหาที่กระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน แต่ละจังหวัดมีหมด อย่าถูกหลอก อย่าให้เป็นเหยื่อแบบนี้มันทรมานปางตายจริงๆ


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง