จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความถามว่า ” 135 บาทแพงที่อะไร ในวันที่ฉันหิว ” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเซียลเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวานนี้ (3 ส.ค. 65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยได้พบกับนายสุรเชษฐ์ พิริยธนพงษ์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงจากกรณีที่มีผู้นำภาพยำวุ้นเส้นทะเล ราคา 135 บาท ไปโพสต์พร้อมกับตั้งคำถามว่าแพงไปไหม
โดยนายสุรเชษฐ์ พิริยธนพงษ์ กล่าวว่า ตนเปิดร้านอาหารแห่งนี้มา 2 ปี แล้วมีลูกค้าทั้งมาทานที่ร้านและสั่งผ่านไรเดอร์ โดยราคาอาหารตามเมนูตนใช้ราคานี้มาตั้งแต่ต้น จะมีปรับราคาอาหารขึ้นบางอย่างตามราคาวัตถุดิบที่ปรับขึ้นบ้าง แต่ยำวุ้นเส้นทะลทางร้านยังคงขายในราคา 100 บาท มาตั้งแต่แรกและยังไม่มีการขึ้นปรับราคาแต่อย่างไร โดยราคาขายยำวุ้นเส้นทะเลนั้น หน้าร้านจะขายอยู่ที่ราคา 100 บาท ส่วนราคาที่ขายผ่านแอปนั้นราคาจะอยู่ที่ 135 บาทซึ่งเป็นราคารวมค่า gp 32% ถ้าไม่บวกค่า gp ร้านจะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ตนยอมรับว่ายำวุ้นเส้นที่ลูกค้านำไปโพสต์นั้นเป็นเมนูจากร้านตน ซึ่งเป็นปริมาณที่ร้านขายตามปกติไม่ได้น้อยเกินไป แต่อาจจะเป็นเพราะทางร้านใช้ถุงที่ขนาด 8×12 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหญ่กว่าที่ร้านอื่นใช้ทั่วไป เนื่องจากปากถุงจะกว้างสะดวกกับการเทอาหารบริการลูกค้าได้เร็วขึ้น จึงทำให้เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วนั้นเหมือนปริมาณอาหารจะดูน้อยกว่าถุงบรรจุ ตนยืนยันทางร้านตนทำอาหารขายทุกเมนูนั้นจะทำตามมาตราฐานในปริมาณที่เท่ากันหมด ไม่ว่าจะที่หน้าร้านหรือสั่งผ่านไรเดอร์ก็ตาม ทางร้านคงไม่มาเสียเวลาแยกประเภท
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการที่ลูกค้านำภาพอาหารมารีวิวถึงเรื่องราคากับปริมานนั้น ตนก็น้อมรับคำติชมเพื่อจะได้นำมาปรับปรุงข้อบกพร่องของทางร้าน เรายินดีรับคำติเพราะลูกค้าก็คือคนที่เอาเงินมาให้มา อะไรที่แก้ไขได้ทางร้านยินดีจะแก้ไขปรับปรุงให้ดี เพราะหากลูกค้าไม่ทักท้วงหรือบอกกล่าวทางร้านก็จะไม่รู้ข้อเสียที่มี อย่างเรื่องยำวุ้นเส้นทะเลที่ลูกมองว่ามีปริมาณน้อยเกินไปนั้น ทางร้านก็จะปรับเพิ่มปริมาณวุ้นเส้นให้เหมาะสมต่อไป แม้ว่าในปัจจุบันราคาวัตถุดิบต้องทุนสินค้าหลายรายการจะปรับตัวสูงขึ้นจนทางร้านต้องแบกรับต้นทุนเหล่าไว้ก็ตาม แต่ทางร้านก็ยังคงขายอยู่ในราคาเดิมไม่ได้ปรับราคาขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าทางร้านต้องขอโทษลูกค้ารายนี้ด้วย ไม่ได้มีเจตนาทำอาหารให้ออกมาดูน้อยหรือไม่สมราคา เพราะหากร้านไปทำอย่างนั้นก็เหมือนการฆ่าตัวตาย หากทางร้านทำอะไรผิดพลาดไปก็ต้องขอโทษลูกค้าด้วย ส่วนคอมเม้นท์หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ทางร้านจะถือเป็นคำติเตือนใจเพื่อใช้ปรับปรุงต่อไป ส่วนตัวก็ไม่คิดท้อ ถือว่าเป็นคำสะท้อนกลับที่ดี ทางร้านจะได้รู้ว่าความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างไร ทางร้านจะได้นำมาปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น ตนจะพยายามทำให้ลูกค้าพอใจ มากที่สุด เพราะลูกค้าเป็นผู้ที่นำเงินมาให้เรา จะมากจะน้อยทุกคนก็คือลูกค้าซึ่งมีความสำคัญกับทางร้านเท่ากันหมด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ เคยสั่งอาหารต่างๆมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากรสชาติอาหารเป็นที่ถูกปาก แต่ตนไม่เคยสั่งอาหารประเภทยำมากินก่อน ในวันนั้นตนอยากกินยำวุ้นเส้นมาก จึงตัดสินใจสั่งผ่านแอพไปตามปกติ แต่พอได้รับยำวุ้นเส้นทะเลมาก็เห็นว่าปริมาณอาหารมันดูน้อยเกินไปกับราคาที่จ่ายไป ตนจึงถ่ายรูปนำไปโพสต์เพื่อสอบถามด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ติดใจจะให้เป็นเรื่องราวอะไรเพราะหลังจากนั้นตนเองก็กินยำวุ้นเส้นทะเลถุงดังกล่าวจนหมดเกลี้ยงเพียงคนเดียวไม่ได้แบ่งให้สามีกินด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทางร้านนี้เขาทำอาหารได้อร่อยรสชาติดี