สปสช.ร่วมกับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลจังหวัดตราดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คิกออฟการจัดเก็บดีเอ็นเอ พิสูจน์สถานะทางทะเบียนราษฎร์เพื่อพัฒนาการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน
โดยกิจกรรมจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) นี้จัดขึ้นที่โรงพยาบาลตราด มีนายแพทย์วินัย บรรจงการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีประชาชนจากจังหวัดตราดและจันทบุรีประมาณ 40 รายเข้ารับบริการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวีร์ วัยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) เป็นการพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต ใช้เป็นหลักฐาน แก้ปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร ทำให้ประชาชนได้รับสิทธิที่ควรได้ โดยเฉพาะสิทธิด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่มีปัญหาด้านสถานะทางทะเบียนและขาดโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและการป้องกันโรค
ขณะที่นายแพทย์วินัย เปิดเผยว่าที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดตราดมักพบปัญหาประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนมีปัญหาทางทะเบียนราษฎรจำนวนมาก การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้บุคคลเหล่านี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์บุคคลที่จะเข้าถึงสิทธิของภาครัฐให้ง่ายขึ้น ในภาคตะวันออก ถือเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 หลังครั้งแรกจัดขึ้นที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี
โดยกิจกรรมจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) นี้จัดขึ้นที่โรงพยาบาลตราด มีนายแพทย์วินัย บรรจงการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีประชาชนจากจังหวัดตราดและจันทบุรีประมาณ 40 รายเข้ารับบริการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวีร์ วัยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) เป็นการพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต ใช้เป็นหลักฐาน แก้ปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร ทำให้ประชาชนได้รับสิทธิที่ควรได้ โดยเฉพาะสิทธิด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่มีปัญหาด้านสถานะทางทะเบียนและขาดโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและการป้องกันโรค
ขณะที่นายแพทย์วินัย เปิดเผยว่าที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดตราดมักพบปัญหาประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนมีปัญหาทางทะเบียนราษฎรจำนวนมาก การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเaป็นการอำนวยความสะดวกให้บุคคลเหล่านี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์บุคคลที่จะเข้าถึงสิทธิของภาครัฐให้ง่ายขึ้น ในภาคตะวันออก ถือเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 หลังครั้งแรกจัดขึ้นที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี
การกำหนดขั้นตอนเพื่อบรรลุข้อตกลง เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับบุคคลที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ ได้เข้าถึงบริการได้ง่าย ปกติการพิสูจน์บุคคลเพื่อเข้าสู่กระบวนการออกสิทธิ์ต่างๆ มีขั้นตอนมากมาย แล้วก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และโอกาสเข้าถึงได้ยากแล้วก็ช้า บางคนต้องเดินทางไปที่ส่วนกลาง เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ตรงนี้ นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสดี นายแพทย์วินัย บรรจงการกล่าว
ด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด ซึ่งนำลูกบ้านมาเข้ารับบริการครั้งนี้บอกว่า รู้สึกดีใจแทนลูกบ้านที่มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เนื่องจากมีลูกบ้านของตนเองบางรายอายุกว่า 60 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร ทำให้ขาดโอกาสการเข้ารับบริการจากภาครัฐโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข